“การวิจัยเทคโนโลยี Deep Tech ขั้นสูงจะไร้ความหมาย หากเราไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่คนหมู่มากได้” เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)
กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรด้วยแนวคิด AI-First Organization ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้าน AI ใน 2 ส่วนหลักคือ การทำวิจัย (Research) และการนำมาประยุกต์ใช้จริง (Application) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรตามเป้าหมายของการเป็นผู้นำด้าน Machine Learning, AI, Data (M.A.D.) ในประเทศไทย
ผลงานนวัตกรรมที่ทีมวิจัย Deep Tech ของ KBTG Labs ได้นำมาใช้งานจริงแล้ว ได้แก่ เทคโนโลยีการยืนยันตัวตน (AINU) เพื่อความปลอดภัยของการทำธุรกรรม และเทคโนโลยี AI เพื่อตรวจจับสภาพรถที่มีความเสียหายจากภาพถ่ายในกลุ่มธุรกิจประกัน (Car AI) รวมทั้งยังเป็นผู้พัฒนาระบบประมวลผลอัจฉริยะสำหรับธนาคาร ที่ใช้งานและส่งมอบให้เกิดคุณค่าทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง
สำหรับในปีหน้า 2567 KBTG ตั้งธงไว้ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนผ่านมาเน้นในเรื่องของการนำงานวิจัยไปทำให้เกิดการประยุกต์ใช้จริง โดยให้น้ำหนักความสำคัญของการใช้งานเทคโนโลยีว่า ‘จะต้องสร้างให้เกิดผลประโยชน์แก่คนหมู่มาก (Human-First)’ ดังนั้นการทำวิจัยและการประยุกต์ใช้วิจัยชิ้นนั้นออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการอย่างจริงจัง จึงเป็นประเด็นที่ KBTG เน้นเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ KBTG ยังผลักดันการเพิ่มศักยภาพทางเทคโนโลยี M.A.D. (Machine Learning, AI, Data) ของธุรกิจและอุตสาหกรรม ด้วยการสร้างผลงานวิจัยเชิงลึก การนำเทคโนโลยีมาพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการให้ตอบโจทย์ตลาดได้จริง และเผยแพร่องค์ความรู้ที่มีเพื่อยกระดับทักษะบุคลากรในวงการเทคของไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำเร็จและกลยุทธ์ดังต่อไปนี้
ผลงานวิจัยด้าน M.A.D. ของ KBTG ได้คุณภาพระดับสากล – ด้วย KBTG Labs มีทีมนักวิจัยและพัฒนาด้าน AI ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของไทย โดยมีการทำวิจัยเองในด้านต่างๆ เช่น Facial Recognition, Computer Vision, NLP (Natural Language Processing), Deep Learning เพื่อควบคุมคุณภาพและการนำมาใช้กับธุรกิจของธนาคารกสิกรไทย KBTG และพันธมิตร โดยในปี 2566 KBTG Labs มีผลงานวิจัยทางด้าน M.A.D. ที่ตีพิมพ์ทั่วโลกถึง 6 ฉบับ รวมไปถึงการสนับสนุนงานวิจัยร่วมของ พัทน์ ภัทรนุธาพร นักศึกษาปริญญาเอกไทยคนแรกจาก MIT Media Lab และ KBTG Fellow ในหัวข้อ ‘Influencing human – AI interaction by priming beliefs about AI can increase perceived trustworthiness, empathy and effectiveness’ ซึ่งได้ตีพิมพ์ใน Nature Machine Intelligence วารสารวิชาการระดับโลก
อีกทั้งยังมีการจับมือกันระหว่าง KBTG Labs และ MIT Media Lab ที่ร่วมกันทำงานวิจัยเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ‘Future You’ จำลองตัวตนของผู้ใช้งานในอนาคตที่สามารถโต้ตอบได้แบบเรียลไทม์ และ ‘คู่คิด’ คู่หูที่พร้อมให้คำปรึกษาต่างๆ โดยนำผลลัพธ์มาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
นอกจากนี้ ยังมี AI ‘น้องคะน้าและคชา’ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย KBTG Labs และ MIT Media Lab ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถให้คำตอบกับคำถามในมุมมองที่ต่างกันไว้เป็นตัวเลือกในการประกอบการตัดสินใจ โดยพัฒนาต่อยอดจากงานวิจัย K-GPT (Knowledge-GPT) ซึ่งเป็นการใช้ความสามารถของ ChatGPT ในการให้ความรู้เชิงลึกเฉพาะด้าน มาพร้อมกับความสามารถในการรองรับภาษาไทย KBTG มีแผนจะนำ ‘คู่คิด’ เปิดตัวสู่ตลาดใช้งานจริงในปี 2567
จากผลงานวิจัยสู่การต่อยอดไปประยุกต์ใช้จริง – KBTG ได้นำเทคโนโลยีและผลงานวิจัยด้าน M.A.D. มาประกอบกับผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารกสิกรไทยในด้านต่างๆ เช่น การตลาด (Marketing Intelligence), สินเชื่อ (Credit Intelligence), การป้องกันการทุจริต (Fraud Intelligence) และการให้บริการ Call Center รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา KBTG เช่น Copilot ถูกนำมาช่วยเพิ่มศักยภาพการเขียนโค้ดขึ้น 2 เท่า การจัดตั้ง M.A.D. Guild ภายในองค์กร เพื่อเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนความรู้ และทำให้ AI เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คน KBTG สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
การกระจายความรู้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร – KBTG มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนขีดความสามารถทางด้าน M.A.D. ให้กับประเทศไทยผ่านหลักสูตร M.A.D. Bootcamp ภายใต้โครงการ KBTG Kampus ClassNest ซึ่งเปิดให้คนสายไอทีที่สนใจพัฒนาทักษะด้าน M.A.D. ได้ลงเรียนและเติบโตไปด้วยกัน พร้อมทั้งสนับสนุนชุมชน AI ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ M.A.D. รวมถึงเผยแพร่ Best Practice และ Lesson Learned จากประสบการณ์ตรงของการทำงานภายใน KBTG ผ่าน KBTG Techtopia และเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า
เรืองโรจน์กล่าวตอนท้ายว่า KBTG ตั้งเป้าหมายร่วมขับเคลื่อนเทคโนโลยีในปี 2567 ด้วย M.A.D. อย่างต่อเนื่อง โดยเดินหน้าจาก AI-First สู่ Human-First เพื่อให้เกิดการนำเทคโนโลยีกลุ่มนี้มาประยุกต์ใช้งานได้จริง โดยนอกเหนือจากการทำงานผ่าน KBTG Labs แล้ว KBTG ได้มีการเปิดตัว KXVC กองทุนมูลค่า 3,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้าน AI, Web3 และ Deep Tech
ในปี 2567 ทาง KXVC พร้อมลงทุนในสตาร์ทอัพและกองทุน AI ทั่วโลก เพื่อเป็นประตูที่จะนำเทคโนโลยี AI ใหม่ๆ และนำเงินทุนจากต่างประเทศมาสู่ไทย รวมถึง KBTG เองก็พร้อมจับมือกับพันธมิตรทั้งในและนอกประเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพด้าน M.A.D. และนำผลงานวิจัยที่กำลังทำ ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดให้คนทั่วไปสามารถใช้งาน และสร้างประโยชน์ให้ผู้คนในสังคมและประเทศไทยต่อไป