KBTG ประกาศความสำเร็จด้าน AI ในปี 2567 พร้อมปักเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2568 ภายใต้ยุทธศาสตร์ Human-First x AI-First Transformation เน้นการพัฒนาบุคลากรและการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไทย ตามแนวคิด ‘KBTG AI For Thailand’ พร้อมตั้งเป้าจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า
เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป เผยว่า ตลอดปี 2567 KBTG บรรลุความสำเร็จด้าน AI หลายมิติ เริ่มตั้งแต่การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม AI เช่น AINU, THaLLE, Future You, คู่คิด, AI-Enabled VDO Analytics, Document OCR ไปจนถึงการพัฒนา AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent หรือโมเดล AI เฉพาะทางสำหรับใช้งานภายในองค์กร โดย AI Agent ตัวแรกที่เปิดให้พนักงาน KBTG ใช้งานเป็นที่เรียบร้อยคือ HR Chat Agent ช่วยตอบคำถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของพนักงาน เช่น ประกันกลุ่ม บัญชีค่าใช้จ่าย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการลา
KBTG ยังใช้ AI อย่าง Face Liveness Detection ที่นำไปใช้ในแอปพลิเคชันต่างๆ ของธนาคารกสิกรไทย และให้บริการเชิงพาณิชย์ผ่าน AINU อีกทั้งมีการสร้างพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและงานวิจัยด้านเทคโนโลยี AI ทั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.), สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT), AI Singapore, Google Research, MIT Media Lab และ AI Fund รวมถึงการได้รับคัดเลือกตีพิมพ์งานวิจัยในงานประชุมนานาชาติด้าน NLP ที่ดีที่สุดในโลกอย่าง The 62nd Annual Meeting of the Association for Computational Linguistics (ACL 2024) มีการตีพิมพ์ผลงานในวารสารนานาชาติรวมทั้งหมด 30 ฉบับ แบ่งเป็น Rank A* 2 ฉบับ และ Rank A 5 ฉบับ ที่ถูกนำไปต่อยอดสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI, การยกระดับ eKYC ด้วย Computer Vision และการตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ผ่านแชตบอตโดย NLP
ในปี 2568 เทรนด์ AI ที่จะเข้ามามีบทบาทมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันคือ
- AI for Human Intelligence การใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ (AI-Driven Business Impact)
- AI Agent โมเดล AI เฉพาะทางที่สามารถทำงานและตัดสินใจแบบ End-to-End ได้อย่างแม่นยำ
- AI Guardrails การใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อลดความเสี่ยง ผ่านการสร้างความตระหนักรู้และการกำกับดูแลที่มีความครอบคลุม แต่ยังคงมีความยืดหยุ่น
โดยเทคโนโลยีที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญของ KBTG คือ Agentic AI หรือโมเดล AI ที่ไม่เพียงแค่สามารถทำงานด้วยตัวเองได้ แต่ยังสามารถประสานงานและสั่งการ AI ตัวอื่นๆ เพื่อทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ สำหรับในปีที่จะถึงนี้ KBTG จะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI โดยยังคงวางมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ผ่าน 3 เรื่องหลัก ได้แก่
Agentic Platformization การสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพื่อจัดการ Agent ให้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้ ยกตัวอย่างเช่น AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent ที่ KBTG พัฒนาใช้เองภายในองค์กร เปรียบเสมือน AI Agent Factory ช่วยสร้าง AI Agent เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละส่วนงานของ KBTG ซึ่งปัจจุบันองค์กรกำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนพัฒนา AI Agent สำหรับหน่วยงานส่วนอื่นๆ เช่น PDPA Chat Agent และ Regulatory Chat Agent
Agentic Orchestration การสร้างและออกแบบกระบวนการใหม่ (Operation Workflow) เพื่อให้ AI Agent กับมนุษย์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ เช่น เบื้องต้นมีการนำ AI Coding Assistant มาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานของนักพัฒนา (Developer) โดยสามารถลดเวลาการทำงานของ Developer เบื้องต้นได้ไม่ต่ำกว่า 20% และมีการสร้างโค้ดด้วย AI ไปแล้ว 500,000 Line of Code ก้าวต่อไปคือการเพิ่มความสามารถจาก AI Coding Assistant ไปเป็น AI Coding Agent ซึ่งจะมีความสามารถเปรียบเสมือน Junior Developer ที่สามารถเขียนโค้ดได้ตั้งแต่ต้นจนจบจากการให้ Requirement ที่ชัดเจน ช่วยลดระยะเวลาในการเขียนโค้ด และทำให้ Software Development Life Cycle รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Agentic Humanization การเตรียมความพร้อมของคนทั้งในด้านแนวคิด ทักษะ และวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI มากยิ่งขึ้น สร้างสิ่งที่เรียกว่า Human-AI Workforce Integration เพื่อส่งเสริมการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการทำงานของพนักงานในทุกๆ วัน โดยปัจจุบัน KBTG บรรลุเป้าหมาย 100% ด้าน AI Literacy สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ AI ให้พนักงานทุกคน มีการสร้างชมรม Machine Learning, AI, Data Analytics (M.A.D. Guild) และกลุ่มผลักดันการใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย (KBTG Democratization of AI: K-DAI Council) เพื่อมุ่งทำ Human Transformation พัฒนาบุคลากรให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง โดย AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปลดล็อกและนำพาไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ KBTG ตั้งเป้าจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2572 ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-Infused Organization ปรับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ให้ AI เข้ามามีส่วนร่วมและผสมผสานกับการทำงานของพนักงานในทุกจุด พร้อมทั้งขับเคลื่อนการสร้าง AI-Driven Innovations เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร รวมถึงขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค ด้วยการนำงานวิจัยด้าน AI มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศ เช่น AI เพื่อการศึกษา, AI เพื่อเป็นที่ปรึกษาสำหรับเยาวชน และ AI เพื่อการแพทย์ ตามแนวคิด ‘KBTG AI For Thailand’ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีและที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป