เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2564 บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ได้เข้าทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต (Bancassurance Agreement) ให้กับ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) แต่เพียงผู้เดียวเป็นระยะเวลา 10 ปี
โดย KBANK จะได้รับค่าตอบแทนจากการให้สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแก่ลูกค้าผ่านช่องทางธนาคารและบริษัทย่อยแก่ MTL แต่เพียงผู้เดียว (ค่าตอบแทนจากการให้สิทธิ์ฯ) จำนวน 1.27 หมื่นล้านบาท และค่าตอบแทนตามผลการดำเนินงาน (Bonus Performance) เพิ่มเติมจากค่านายหน้าซึ่ง KBANK ได้รับอยู่แล้วภายใต้สัญญาฉบับเดิม โดย KBANK จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ตลอดอายุสัญญา ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2565
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (5 กรกฎาคม) ราคาหุ้น KBANK ปรับตัวลง 1.69%DoD สู่ระดับ 116.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้น 0.79 จุด หรือ 0.05%DoD สู่ระดับ 1,579.28 จุด
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นไปตามทิศทางเดียวกันกับธนาคารอื่นๆ ในแง่ของโครงสร้างค่าตอบแทน ซึ่งดีลนี้จะส่งผลบวกต่อ KBANK เนื่องจากค่าตอบแทนจากการให้สิทธิ์ฯ และค่าตอบแทนตามผลการดำเนินงานที่ KBANK ได้รับเพิ่มจะมีจำนวนมากกว่ารายได้ค่านายหน้าจากการขายผลิตภัณฑ์ประกันให้กับบริษัทประกันรายอื่นๆ ที่สูญเสียไป โดยดีลนี้จะช่วยหนุนให้กำไรของ KBANK เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 627 ล้านบาทต่อปี ตลอดอายุสัญญา
สำหรับแนวโน้มกำไร 2Q64 ของ KBANK ทางด้าน SCBS คาดไว้ที่ 9.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 337%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองที่ลดลง YoY รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่เพิ่มขึ้น YoY รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ที่ลดลง YoY หากเทียบ QoQ กำไร 2Q64 จะลดลง 11%QoQ เนื่องจากการตั้งสำรองสูงขึ้น QoQ
มุมมองระยะยาว:
ด้านผลประกอบการระยะยาวของ KBANK มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการทยอยลดการตั้งสำรองลงหลังจากตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2563 เพื่อรองรับทิศทาง NPL ที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบของการระบาดของโควิด ขณะที่ความต้องการสินเชื่อจะยังคงไม่น่าตื่นเต้น และรายได้ค่าธรรมเนียมมีแนวโน้มเติบโตต่ำในระยะ 2 ปีข้างหน้า
