ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้เซ็นสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต (Bancassurance Agreement) ให้กับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แต่เพียงผู้เดียว เป็นระยะเวลา 10 ปี ผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร เช่น สาขา พนักงานสาขา เอทีเอ็ม พนักงานประจำและชั่วคราว รวมถึงช่องทางดิจิทัล การตลาดทางตรง (Direct Marketing) และการตลาดผ่านทางโทรศัพท์ (Telemarketing)
โดยช่องทางการขายยังครอบคลุมถึงบริษัทย่อยของธนาคาร 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด, บริษัท แฟคเตอรี แอนด์ อีควิปเมนท์ กสิกรไทย จำกัด, บริษัท โพรเกรส มัลติ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัดด้วย
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 และจะมีผลบังคับใช้เมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคาร โดยธนาคารจะได้รับค่าตอบแทนจากการให้สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแก่ลูกค้าผ่านช่องทางธนาคารและบริษัทย่อยแก่เมืองไทยประกันชีวิตเป็นมูลค่า 1.27 หมื่นล้านบาท นอกจากนั้นยังจะได้รับค่าตอบแทนตามผลการดำเนินการขาย และค่านายหน้าในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตอีกด้วย โดยสัญญาอาจสิ้นสุดลงก่อน 10 ปีได้ หากผลการดำเนินธุรกิจถึงเกณฑ์ที่กำหนด และสามารถต่ออายุได้ไม่เกิน 2 ปี ในกรณีที่ผลการดำเนินธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
ขัตติยากล่าวเพิ่มเติมว่า การทำสัญญาครั้งนี้เกิดจากธนาคารมีความมั่นใจว่า เมืองไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในตลาดประกันชีวิต เห็นได้จากการที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านช่องทางการจำหน่ายผ่านธนาคารในช่วงปี 2561-2563
“การเป็นพันธมิตรระยะยาวอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้การพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องลงทุนร่วมกันระยะยาว เช่น การลงทุนด้านไอทีเพิ่มมากขึ้น จะนำไปสู่การให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกค้า และได้รับผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้าของธนาคารตามช่องทางต่างๆ ที่ปัจจุบันยังเข้าไม่ถึงได้ในอนาคต” ขัตติยากล่าว
ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีสัดส่วนการถือหุ้นนับรวมแบบสัดส่วนผลประโยชน์สุทธิ (Effective Shareholding) ในเมืองไทยประกันชีวิตคิดเป็น 38.25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยในปี 2563 ธนาคารมีรายได้จากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและส่วนแบ่งในกำไรของเมืองไทยประกันชีวิตทั้งหมด รวมประมาณ 9 พันล้านบาท
ด้าน สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือระยะยาวครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการในรูปแบบใหม่ระหว่างบริษัทกับธนาคารกสิกรไทย รวมไปถึงการพัฒนาความรู้และทักษะใหม่ของบุคลากรให้พร้อมรองรับกับโลกยุคดิจิทัล
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล