จงรัก รัตนเพียร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงกรณีการออกและเสนอขายตราสารด้อยสิทธิให้แก่ผู้ลงทุนในต่างประเทศ
โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ธนาคารได้ดำเนินการออกตราสารทางการเงินที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคาร ซึ่งมีชื่อเฉพาะว่า ‘U.S.$350,000,000 Additional Tier 1 Subordinated Notes’ ภายใต้ U.S.$4,000,000,000 Euro Medium Term Note Programme ของธนาคาร โดยการออกตราสารที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับโครงสร้างเงินทุนของธนาคารให้มีความเหมาะสมและรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
นอกจากนี้ภาวะตลาดทุนในปัจจุบันยังเอื้อต่อการออกและเสนอขายตราสาร ทั้งนี้เงินกองทุนของธนาคารยังคงมีเสถียรภาพและเพียงพอในการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ตราสารดังกล่าวมีธนาคารกสิกรไทย สาขาฮ่องกง เป็นผู้ออก วงเงิน 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จัดเครดิตเรตติ้งโดย Moody’s อยู่ที่ Ba1 เป็นประเภทตราสารทางการเงิน ประเภทด้อยสิทธิและไม่มีผู้แทนผู้ถือตราสาร ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมีข้อกำหนดใหัตราสารสามารถรองรับผลขาดทุนของธนาคารได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
สำหรับอายุของตราสารไม่มีการกำหนด (Perpetual หรือชั่วนิรันดร์) อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และมีการ Reset อัตราดอกเบี้ยทุกๆ 5 ปี ซึ่งธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารได้ครั้งแรกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2570 และครั้งต่อๆ ไป ทุกวันที่เป็นวันชำระผลตอบแทนของตราสารภายหลังจากนั้น โดยการไถ่ถอนต้องได้ความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน