กสิกรไทยมั่นใจอันดับ 1 ลูกค้า SMEs ใช้เทคโนโลยีใหม่พัฒนาธุรกิจ ดึงฟินเทคผนึกกำลัง ตั้งเป้า ‘ธนาคารเพื่อ SMEs’
สุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2561 จะขยายตัวใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยคาดว่าจีดีพีจะเติบโตประมาณ 4% ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวยังแนวโน้มดี ขณะที่กลุ่มธุรกิจก่อสร้างมีศักยภาพที่จะเติบโตตามโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลเร่งผลักดันในปีนี้ ส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กหรือ SMEs ต้องปรับตัวมากขึ้นทั้งการพัฒนาช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้และการรักษาฐานลูกค้า ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายมาก
ธนาคารกสิกรไทยจึงประกาศตัวเป็น ‘ธนาคารเพื่อธุรกิจ SMEs’ เพื่อตอบสนองความต้องการคนทำธุรกิจโดยใช้กลยุทธ์ 4 ด้านคือ
1. การให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร ปัจจุบัน ธนาคารมีลูกค้าที่เป็นเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมกว่า 2,200 กลุ่ม ซึ่งมี 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอุปโภคบริโภค กลุ่มฮาร์ดแวร์และอะไหล่ กลุ่มน้ำมันและโครงสร้างพื้นฐาน มียอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ในปี 2560 รวม 1.8 หมื่นล้านบาท และจะสนับสนุนผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจแฟรนไชส์ให้มากขึ้นด้วย
2. นวัตกรรมการเงินดิจิทัลแบงกิ้ง จะใช้ K PLUS SHOP แอปพลิเคชันสำหรับร้านค้ารับชำระเงินด้วย QR Code เพื่อการรับจ่ายเงินที่คล่องตัว ปัจจุบันมีร้านค้าใช้บริการแล้ว 7.1 แสนร้านค้า ทำรายการผ่าน K PLUS SHOP จำนวน 1.3 ล้านรายการ คิดเป็นเงิน 829 ล้านบาท
3. การใช้ Data Analytic เทคโนโลยีวิเคราะห์สินเชื่อ ซึ่งปีที่ผ่านมาใช้เทคโนโลยีมาช่วยอนุมัติสินเชื่อใหม่ได้กว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ในปีนี้จะขยายการใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลในการพิจารณาสินเชื่อให้มากขึ้น และ 4. การให้บริการที่มากกว่าด้านการเงิน เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการและยังให้เงินทุนสนับสนุนในการทำวิจัยและนวัตกรรม นอกจากนี้จะเฟ้นหาฟินเทคที่มีศักยภาพมาเสริมทัพในการเชื่อมต่อกันระหว่างระบบของฟินเทคกับระบบของธนาคาร ปีนี้จะเดินหน้าขยายการให้บริการไปยังกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ด้วย
ปี 2560 ที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยมียอดสินเชื่อเอสเอ็มอีเกือบ 7 แสนล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนหน้า 6% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 4-6% และจะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งที่ 28.5% ซึ่งเป็นการเปิดเกมรุกลูกค้า SMEs ที่เข้มข้นน่าจับตาตั้งแต่ต้นปี
