เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวคาซัคสถานจำนวนมากต่างออกมาร่วมชุมนุมประท้วงตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ หลังมองว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในรอบ 30 ปีที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาไม่โปร่งใสและเป็นเพียงการสร้างความชอบธรรมในการสืบทอดอำนาจให้แก่คาสซิมโจมาร์ทโตกาเยฟที่รับช่วงต่อนูร์ซุลตานนาซาร์บาเยฟประธานาธิบดีคนแรกของคาซัคสถานหลังจากที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคมเท่านั้น
ทางด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่ามีชาวคาซัคสถานถูกจับกุมกว่า 500 ราย เนื่องจากข้อหาก่อความไม่สงบทางการเมือง
ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา นูร์ซุลตาน นาซาร์บาเยฟ ชนะการเลือกตั้งด้วยการกวาดคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นไม่น้อยกว่า 97% ทุกครั้งที่ลงชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศ
โดยผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการหลังมีชาวคาซัคสถานออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งราว 77.4% คาดว่า คาสซิม โจมาร์ท โตกาเยฟ ทายาททางการเมืองของนาซาร์บาเยฟ จะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 2 ของคาซัคสถานอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ โดยมีคะแนนเสียงทิ้งห่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 6 คนที่เหลืออย่างขาดลอย
แต่อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าการประกาศลาออกของนาซาร์บาเยฟเป็นเพียงการก้าวลงจากตำแหน่งเท่านั้น ไม่ใช่การก้าวลงจากอำนาจ เพราะเขายังถือเป็นบิดาแห่งรัฐ ตำแหน่งเชิงสัญลักษณ์ที่ได้รับความเคารพนับถือจากประชาชนในฐานะผู้นำที่ปกครองประเทศ ภายหลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลายลงและพัฒนาประเทศให้คาซัคสถานเป็นผู้ส่งออกแร่ธาตุและเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
ภาพ: Vyacheslav Oseledko / AFP / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: