ตามที่มีข่าวเรื่องธนาคารเอยาวดี ฟาร์มเมอร์ ดีเวลลอปเม้นท์แบงก์ หรือเอแบงก์ และธนาคารกสิกรไทย เข้าพบธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เรื่องการเข้าร่วมลงทุนในธนาคารเอแบงก์นั้น
ภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าธนาคารกสิกรไทยขอแจ้งว่าการพบปะในครั้งนี้เป็นการหารือเพื่อพัฒนาธุรกิจของธนาคารในประเทศเมียนมา ซึ่งปัจจุบันตามประกาศของธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมานั้นสามารถเข้าไปดำเนินธุรกิจได้ใน 3 รูปแบบดังนี้
1. จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศ (Subsidiary)
2. จัดตั้งสาขาต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทยในเมียนมา (Foreign Bank Branch)
3. การเข้าร่วมลงทุนในธนาคารท้องถิ่นในประเทศเมียนมา (Equity Participation)
ธนาคารอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ทั้ง 3 ทางในการที่จะเข้าไปทำธุรกิจ และจากเนื้อหาของข่าวเรื่องการเข้าพบทางธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาดังกล่าว ความเป็นไปได้ของการเข้าลงทุนยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนของการพิจารณาของธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
รวมทั้งธนาคารกำลังเจรจารูปแบบการลงทุนและโครงสร้างที่เหมาะสมในการเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมาที่ใช้เงินลงทุนที่คุ้มค่า สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ธนาคารแห่งประเทศไทย และกฎหมายที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและธนาคารแห่งประเทศไทยว่าจะอนุมัติหรือไม่และในรูปแบบใด
สำหรับการขยายธุรกิจสู่ประเทศเมียนมานั้น ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่ทำให้ประชาชนและธุรกิจในเมียนมาสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น (Financial Inclusion) เสริมความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจของเมียนมา ขยายโอกาสและความสัมพันธ์ให้แก่ธุรกิจระหว่างประเทศไทย-เมียนมาได้มากขึ้นด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์