“คุณคิดว่าชีวิตตัวเองขับเคลื่อนด้วยอะไร?”
แต่ที่แน่ๆ THE STANDARD เชื่อเหลือเกินว่าหลายโมเมนต์ในชีวิตของ ‘ตูน บอดี้สแลม’ อาทิวราห์ คงมาลัย นั้นขับเคลื่อนด้วย ‘ความเชื่อ’ ซึ่งทั้งหมดนั้นสะท้อนออกมาทั้งจากการใช้ชีวิตและบทเพลงของบอดี้สแลม
ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากจะใช้ ‘ความเชื่อ’ ขับเคลื่อนความฝันส่วนตัว แต่ล่าสุดเขายังเปลี่ยนความเชื่อของตัวเองเป็นแรงบันดาลใจ พลังศรัทธา กระทั่งดึงดูดมิตรภาพจากผู้คนหลากหลายวัย หลากสถานะ หลากความเชื่อจากสองข้างทางที่ตัวเองได้วิ่งผ่าน เริ่มต้นจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เรื่อยไล่สู่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผ่านโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่ง ณ เวลานี้กำลังกลายเป็นกระแสปรากฏการณ์ Run It Forward ไปทั่วประเทศ
ล่าสุดการวิ่งของเขาผ่านมาได้ 16 วัน, 5 จังหวัด, 603 กิโลเมตร พร้อมกับยอดเงินบริจาคมากกว่า 250 ล้านบาทแล้ว! ถ้างั้นย้อนกลับไปทบทวนกันดูหน่อยสิว่าตลอดการวิ่งที่ผ่านมามีโมเมนต์ดีๆ อะไรเกิดขึ้นบ้าง ก่อนที่เราจะออกเดินทางไปพร้อมกับเขาต่อในอีกหลายสิบวันที่เหลือต่อจากนี้
1 พฤศจิกายน: ยะลา
ก้าวแรกจาก ‘ยะลา’ ที่ ‘ป้ายใต้สุดแดนสยาม’
ตูน บอดี้สแลม เริ่มต้นออกวิ่งครั้งใหม่ในโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เบตง-แม่สาย 55 วัน ตลอดระยะทาง 2,191 กม. ในช่วงเช้าตรู่ โดยถือเคล็ดด้วยตัวเลข 6.09 น.ในการออกวิ่งก้าวแรก เริ่มต้นจากสุดปลายด้ามขวานตรง ‘ป้ายใต้สุดแดนสยาม’ จากนั้นวิ่งลอดใต้ ‘อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์’ มีประชาชนในตัวเมืองเบตงทั้งส่งแรงเชียร์ ร่วมออกตัววิ่ง และตลอดสองเส้นทางมอบเงินบริจาคไม่ขาดสาย
นอกจากนั้นทีมงานยังเปิดตัวเว็บไซต์ kaokonlakao.com เพื่ออัพเดตระยะการวิ่งและยอดเงินบริจาคแบบเรียลไทม์วินาทีต่อวินาที! พร้อมเปิดเผยยอดเงินบริจาคที่แค่เริ่มต้นก็สูงกว่า 40 ล้านบาทแล้ว
2 พฤศจิกายน: ยะลา
สัญญาลูกผู้ชายที่หน้าโรงพยาบาลธารโต
ยะลาวันที่ 2 ยังคงคึกคัก ตูน บอดี้สแลม เริ่มต้นวิ่งตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางที่สะพานโต๊ะกูแช (ด่านตรวจทหาร) จังหวัดยะลา เพื่อมุ่งสู่โรงเรียนบ้านตาเนาะปูเต๊ะ ในเซตสุดท้าย หนึ่งโมเมนต์ที่น่าจดจำเกิดขึ้นที่หน้าโรงพยาบาลธารโต เมื่อผู้ป่วยชายที่เข้ามารับการรักษาด้วยโรคมาลาเรีย ออกปากขออนุญาตคุณหมอออกมาเฝ้ารอพบร็อกเกอร์หนุ่มผู้ออกวิ่งเพื่อคนอื่นที่ด้านหน้าโรงพยาบาล และทั้งๆ ที่วิ่งผ่านไปแล้ว แต่เมื่อทีมงานตะโกนบอก ตูน บอดี้สแลม ไม่รอช้าที่จะวิ่งย้อนกลับมาสวมกอด ต่างคนต่างให้กำลังใจกัน ก่อนที่นักวิ่งเลือดร็อกจะพูดทิ้งท้าย ต่างคนต่างจับมือเหมือนเป็นคำสัญญาร่วมกัน “ขอให้หายไวๆ แล้วออกมาร่วมกันนะครับ ผมจะรอ”
3 พฤศจิกายน: ยะลา-ปัตตานี
ปรอยฝนภาคใต้ให้การต้อนรับตลอดเส้นทาง
เข้าสู่วันที่ 3 ของการวิ่ง และวันที่ 3 บนแผ่นดินเมืองยะลา ซึ่งยอดบริจาคค่อยๆพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ได้เวลาแล้วที่ ‘ฝนภาคใต้’ จะให้การต้อนรับตลอดเส้นทาง คงเหมือนเป็นการกล่าวทักทายจากฟ้าว่าถ้าจะวิ่งแล้วไม่มีฝนก็คงไม่ใช่การมาวิ่งที่ภาคใต้ แต่ถึงอย่างนั้นตลอดสองข้างทาง ชาวใต้ยังคงให้การต้อนรับ ส่งเสียงเชียร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อจบการวิ่งในวันนี้ในเซตสุดท้าย ตูน บอดี้สแลมจะเข้าสู่จังหวัดปัตตานี ที่วัดธนาภิมุข ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดที่สองของปลายด้ามขวาน
4 พฤศจิกายน: ปัตตานี
เมื่อพายุฝนและสภาพร่างกาย ท้าทายใจตน อยู่ตรงนี้
หลังจากพบการต้อนรับด้วยเม็ดฝนจนทำให้กำหนดการวิ่งของวันที่ 3 ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 10 ชั่วโมง นอกจากนั้น ตูน บอดี้สแลม ยังเจอกับอีกบททดสอบ เมื่อเขาเริ่มเจอกับอาการบาดเจ็บที่หลังและขา ซึ่งเกิดจากลักษณะการวิ่งที่ไม่ปกติ เพราะตลอดเส้นทาง นักวิ่งร็อกมาราธอนต้องก้มๆ เงยๆ โน้มคอรับพวงมาลัยเงิน ต้องถ่ายเซลฟี รวมไปถึงกิจกรรมอีกมากมายหลายรูปแบบที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บร่างกาย สุดท้ายหลังจากทีมแพทย์เข้าเยียวยาโดยการใช้พลาสเตอร์ยารัดกล้ามเนื้อเพื่อลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ก่อนจะออกวิ่งต่อ ไม่มีถอย
5 พฤศจิกายน: ปัตตานี-สงขลา
วิ่งชดเชย แบบไม่มีโกง
ถ้าตลอดการวิ่งของ ตูน บอดี้สแลม ในโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศคือหนังชีวิต วันที่ 4 ก็เหมือนว่าเป็นไคลแมกซ์แรก! ที่ตัวละครจะต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญ ผ่านพายุฝนและอาการบาดเจ็บ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อพลังใจไม่ท้อ จากแผนเดิมที่วางไว้ว่าจะวิ่ง 4 วัน พัก 1 วัน ที่สุดกลายเป็นว่าในวันที่ 5 เขาจะต้องกลับมาวิ่งชดเชยระยะที่ตัวเองทำไม่สำเร็จจากเมื่อวาน โดยเริ่มต้นจากเซตที่ 2 ของวันก่อนคือ วัดธนาภิมุข ตำบลปากล่อ โรงเรียนบ้านยางแดง มุ่งสู่ ลานกีฬา กม.72 ก่อนจะเข้าพักที่ คิตตี้ รีสอร์ท จังหวัดสงขลา
6 พฤศจิกายน 2560: สงขลา
ชาวสงขลาต้อนรับเนืองแน่น เศรษฐีจิมมี่ ชวาลา ประกาศให้เงิน 16 ล้าน แทนจำนวนคนในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ก้าวของ ตูน บอดี้สแลม วิ่งผ่านพื้นที่ของจังหวัดสงขลา พร้อมการต้อนรับอย่างเนื่องแน่น และนาทีนี้ กระแสการวิ่งของ ตูน บอดี้สแลม เริ่มกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ถูกจับตามอง ซึ่งมีทั้งเสียงชื่นชม ให้กำลังใจ และวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วประเทศ
แต่แล้วก็เกิดข่าวใหญ่ประจำวัน เมื่อข่าวของจิมมี่ ชวาลา เศรษฐีใจบุญแห่งเมืองนครศรีธรรมราช จะขอมอบเงินบริจาคจำนวนกว่า 16 ล้านบาทให้กับโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ในนามคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ทันทีที่การวิ่งเข้าสู่พื้นที่ของจังหวัด สุดท้ายมันกลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่คนไทยทั้งประเทศเฝ้าจับตามองการไปถึงและเจอกันของบุรุษนักวิ่ง และบุรุษใจกุศลในอีกไม่กี่วันข้างหน้าต่อจากนี้
8 พฤศจิกายน: สงขลา
‘เดิมพัน 2,000 กิโล’ เมื่อ อาแอ๊ด คาราบาว แต่งเพลงส่งกำลังใจให้หลานตูน บอดี้สแลม
นอกจากภาพข่าวการต้อนรับอย่างเนืองแน่นของชาวสงขลาที่ถูกส่งต่อกันอย่างมากมายเป็นที่ประทับใจ อีกภาพที่สวยงามไม่แพ้กันคือการวิ่งผ่านสะพานติณสูลานนท์ ข้ามทะเลสาบสงขลา ที่ทอดยาวเชื่อมอำเภอเมืองกับอำเภอสิงหนคร มีประชาชนมาร่วมวิ่งอย่างคับคั่ง
นอกจากนั้น ‘แอ๊ด คาราบาว’ ยืนยง โอภากุล ยังสร้างความฮือฮาด้วยการแต่งเพลง ‘เดิมพัน 2,000 กิโล’ และโพสต์คลิปร้องเพลงส่งผ่านเป็นกำลังใจผ่านทางเฟซบุ๊ก Add Carabao พร้อมกับข้อความให้กำลังใจสุดซึ้ง ก่อนจะทิ้งท้ายฝากไปถึงหลานตูนว่า “แล้วเจอกันบนถนน”
ติดตามรับชมเพลง ‘เดิมพัน 2,000 กิโล’ ได้ที่นี่ www.facebook.com/BuffalosfollowThamma/posts/1129401890528899
11 พฤศจิกายน: นครศรีธรรมราช
ผ่าน 400 กิโลเมตรแรก! ทำลายสถิติการวิ่งระยะเดิมของตัวเอง
ไฮไลต์ที่สำคัญของครึ่งวันเช้านี้ของวันที่ 11 แต่เชื่อว่าคงเป็นไฮไลต์สำคัญในชีวิตนักวิ่งของ ตูน บอดี้สแลม ด้วยเช่นกัน หลังจากเขาวิ่งผ่าน 400 กิโลเมตรแรก ซึ่งเคยเป็นสถิติการวิ่งระยะไกลเดิมของเขาที่เคยทำไว้เมื่อครั้งออกวิ่งจากกรุงเทพฯ สู่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน ในปีที่แล้ว
โดยในช่วงการวิ่งระยะ 100 เมตรสุดท้ายก่อนจะผ่านการทำลายสถิติเดิม ตูนคว้ากีตาร์แล้วร้องเพลง ‘แสงสุดท้าย’ พร้อมกับมาลัยเงินเต็มคอ โดยมีเสียงโห่ร้องร่วมยินดีจากทีมงานและประชาชนสองข้างทาง
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกแชร์ต่อทางโลกโซเชียลฯ เพราะหลังจากผ่าน 400 กิโลเมตร ตูนได้ถ่ายรูปและเท็กซ์ไปที่ โม ฟาราห์ ยอดนักวิ่งระยะไหล ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติดชาวอังกฤษ ที่ล่าสุดเพิ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ
ต่อมา โม ฟาราห์ ก็โพสต์รูปคู่กับรองเท้าแบรนด์ดัง พร้อมกับข้อความให้กำลังใจตอบกลับไปถึง ตูน บอดี้สแลม ว่า “จงปล่อยเรื่องของสถิติไว้ข้างหลัง เพราะก้าวต่อไปที่สำคัญกว่าสถิตินั่นก็คือ การเริ่มต้นใหม่ในทุกๆ วัน” (Keep running @artiwara. Leave all your records behind. The next step is a new start. #breakthrough #break2191k)
12 พฤศจิกายน: นครศรีธรรมราช
การพบกันของ ตูน บอดี้สแลม และ จิมมี่ ชวาลา เศรษฐีชาวนครศรีธรรมราช
วันสำคัญที่คนไทยเฝ้าจับตามองมาหลายวัน เพราะนี่คือวันที่ ตูน บอดี้สแลม และ จิมมี่ ชวาลา เศรษฐีชาวนครศรีธรรมราช ผู้บริจาคเงินเข้าโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ จะได้พบกัน แต่กว่าภาพระดับปรากฏการณ์ของปี 2560 จะเกิดขึ้นได้ก็ไม่ใช่งานง่าย เพราะคลื่นมหาชนชาวนครศรีธรรมราชคอยต้อนรับเนืองแน่นเหลือเกิน
จนกระทั้งเวลาบ่ายคล้อย ทีมงานก็ได้รับการประสานเพื่อให้ ตูน บอดี้สแลม และ จิมมี่ ชวาลา ได้พบกันที่หน้าโรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ พร้อมกับภาพที่นักวิ่งหัวใจร็อกก้มลงเพื่อสวมกอดขอบคุณเศรษฐีใจบุญชาวนครศรีธรรมราช ก่อนที่จิมมี่จะจูบที่หน้าผากตูนเป็นการส่งมอบกำลังใจเยี่ยงผู้ใหญ่ใจดี และปิดท้ายโมเมนต์สำคัญด้วยการออกวิ่งร่วมกันอีก 1 กิโลฯ ก่อนที่ทีมวิ่งจะมุ่งหน้าสู่ ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหยุดพักค้างคืน
13 พฤศจิกายน: สุราษฎร์ธานี
พลังแห่งนิยาม Run It Forward เริ่มต้นทำงานอย่างแท้จริง เมื่อ เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘พร้อมรับไม้ต่อ หาก ตูน บอดี้สแลม ไปต่อไม่ไหว’
เมื่อวันเวลาเพิ่มขึ้น ระยะทางการวิ่งเพิ่มขึ้น ร่างกายของ ตูน บอดี้สแลม ก็ผ่านการทำงานหนักด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องหยุดพักการวิ่งไปนานกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากเกิดอาการบาดเจ็บ เมื่อข่าวออกไป คนทั้งประเทศเริ่มเป็นห่วงว่าเขาจะไปต่อได้สักกี่มากน้อย หากยังวิ่งระยะไกล พร้อมกับร่วมทำกิจกรรมสองข้างทางกับคนดูอย่างที่เกิดขึ้นแบบทุกวัน
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง กระแสบนโลกโซเชียลฯ ก็เริ่มฮือฮา เมื่อ วรเชษฐ์ เอมเปีย หรือที่รู้จักกันดีในนาม เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล โพสต์ข้อความให้กำลังใจ พร้อมกับรับอาสาว่าถ้าตูนไม่ไหว เขาพร้อมจะรับไม้ต่อในส่วนที่น้องก้าวไปไม่ถึง โดยจะไม่ขอรับสปอนเซอร์ใดๆ ทั้งสิ้น จนเกิดกระแสชื่นชมและสานต่อแนวคิดนี้เพิ่มขึ้นมากมาย
เข้าชมประโยคดังกล่าวได้ทางเพจ www.facebook.com/chate.smilebuff
14 พฤศจิกายน: สุราษฎร์ธานี
‘การวิ่งได้อยู่ในพระเนตรพระกรรณโดยตลอด’ ร.10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของเป็นกำลังใจแก่ตูน บอดี้สแลม และทีมงานก้าวคนละก้าว
ในวันที่คนไทยกำลังเป็นห่วงกับข่าวลือเรื่องสภาพร่างกายของตูน แต่ถึงอย่างนั้นนักวิ่งหัวใจร็อกก็ยังคงวิ่งต่อไม่คิดหยุด ขณะเดียวกันยอดบริจาคก็พุ่งไปสู่ตัวเลขสุดสวย 222 ล้านบาทตั้งแต่ช่วงครึ่งวันเช้า
ขณะเดียวกันก็เกิดเรื่องน่าปีติยินดีขึ้นทั้งกับทีมงานก้าวคนละก้าว รวมไปถึงคนไทยทั้งประเทศ หลังจากได้รับทราบข่าวว่าในเวลา 11.30 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้นายอาทิวราห์ คงมาลัย และคณะนักวิ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ณ โรงแรมบรรจงบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
15 พฤศจิกายน: สุราษฎร์ธานี
“ที่สุดในชีวิตเลยครับ” ตูน บอดี้สแลม เผยความรู้สึกหลังรับสิ่งของพระราชทานจาก ร.10
หลังจาก ตูน บอดี้สแลม และคณะทีมงานโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ได้เข้ารับสิ่งของพระราชทาน ช่อดอกไม้ และเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทาน เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันนี้ (15 พ.ย.) ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมบรรจงบุรี ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ล่าสุด ตูน บอดี้สแลม ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ในไลฟ์สดในเพจหลักทางเฟซบุ๊ก ‘ก้าว’ ตอนหนึ่งว่า “ที่สุดในชีวิตเลยครับ”
“ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่เกิดขึ้น ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้จากพระองค์
“พระองค์ทรงเมตตามองเห็นในสิ่งที่เราได้ตั้งใจทำ ตอนนี้มันยังไม่ถึงปลายทาง มันอยู่ระหว่างทาง พระองค์เห็นแล้วพระองค์ก็ส่งกำลังใจ แล้วพระองค์ไม่ได้ส่งกำลังใจอย่างเดียวนะครับ แต่พระองค์ยังส่งเครื่องบำรุงต่างๆ ขนมนมเนย วิตามิน น้ำ สิ่งต่างๆ มาให้พวกเรา ผมว่านี่มันเป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยให้เราได้ไปต่อ และผมคิดว่าถ้าเราไปถึงวันที่ 55 ได้ ไปถึงเชียงรายได้ วันนี้จะเป็นเหมือนวันที่เติมพลังที่สำคัญที่สุดของพวกเราวันหนึ่ง”
ส่วนข้อสงสัยที่คนไทยที่กำลังลุ้นและเอาใจช่วยเกี่ยวกับสภาพร่างกายของ ตูน บอดี้สแลม ที่ในช่วงวันหลังๆ มีอาการบาดเจ็บปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง นักวิ่งร็อกมาราธอนก็พูดให้แผนกเชียร์จากทั่วประเทศได้โล่งอกอีกว่า
“สมบูรณ์นะครับ คืออาการพวกอ่อนเพลียอะไรพวกนี้ มันก็มาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วล่ะ เพราะเราใช้ร่างกายเยอะ เราพักผ่อนน้อยด้วย มันก็คงมาเป็นเรื่องปกติ แต่พอเราได้ฟื้นฟูอย่างวันพักวันนี้ ก็รู้สึกอยากกลับไปวิ่งอีกแล้ว”
16 พฤศจิกายน: สุราษฎร์ธานี
ก้าวต่อด้วยพลังใจที่ถูกเติมเต็ม
ล่าสุดการวิ่งของวันที่ 16 พฤศจิกายน ยังคงคึกคัก เต็มไปด้วยพลัง หลังจากเมื่อวาน ตูน บอดี้สแลม ได้หยุดพัก ซึ่งระหว่างการวิ่งในเซตที่ 2 เมื่อเวลา 15.35 น. ที่กำลังมุ่งหน้าสู่อำเภอคลองน้อย จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากผ่านการออกวิ่งมาได้ 16 วัน มากกว่า 603 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางแล้วทั้งหมด 5 จังหวัด ยอดเงินพุ่งต่อเนื่องสู่หลัก 249 ล้านบาท และเชื่อเหลือเกินว่าพลังศรัทธาของคนไทยจะช่วยส่งให้ทั้งขบวนนักวิ่งและยอดบริจาคไปต่ออีกได้ไกล!
ทั้งนี้คนทั้งประเทศยังสามารถคลิกเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวทั้งบรรยากาศสด อัพเดตเส้นทางการวิ่ง เลือกช่องทางบริจาคทั้งหมดซึ่งมีวิธีอยู่มากมาย และสำคัญที่สุดคือติดตามยอดเงินบริจาคแบบเรียลไทม์นาทีต่อนาทีได้ที่เว็บไซต์ www.kaokonlakao.com ส่วนข่าวสารใหม่ๆ ติดตามได้ทางเพจหลักทางเฟซบุ๊ก ‘ก้าว’ เพื่อให้ความฝันที่ตัวเลข 700 ล้านบาทของ ตูน บอดี้สแลม และทีมงานโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เป็นความจริง!
ขอบคุณภาพจาก: www.facebook.com/VinBuddy