เกิดเหตุกราดยิงขึ้นในระหว่างที่มีการจัดขบวนพาเหรดฉลองชัยชนะซูเปอร์โบวล์ของทีม Kansas City Chiefs ในเมืองแคนซัสซิตี้ (Kansas City) รัฐมิสซูรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และบาดเจ็บ 22 คน ซึ่งรวมถึงเด็กอย่างน้อย 11 คนที่อาการสาหัส ขณะที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน
เหตุการณ์เกิดขึ้นใกล้กับย่านยูเนียนสเตชัน (Union Station) ซึ่งเป็นปลายทางของขบวนพาเหรด โดยเสียงปืนส่งผลให้ผู้คนพากันแตกตื่นและวิ่งหนีหาที่กำบังด้วยความโกลาหล ก่อนที่ตำรวจจะเข้าควบคุมสถานการณ์ และจับ 3 ผู้ต้องสงสัยที่มีอาวุธปืนและคาดว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานแรงจูงใจในการก่อเหตุของมือปืน และยังไม่มีการยืนยันจำนวนมือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงครั้งนี้ โดยตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน
ขณะที่ ควินตัน ลูคัส (Quinton Lucas) นายกเทศมนตรีของเมือง ขอให้ประชาชนที่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเหตุกราดยิงและมือปืน ให้แจ้งไปยังตำรวจ
อย่างไรก็ตาม รายงานจาก CBS News อ้างข้อมูลแหล่งข่าวทางการว่า เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
ทางด้านทำเนียบขาวได้เผยแพร่แถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับรายงานเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นแล้ว และยังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางทำเนียบขาวได้ติดต่อไปยังนายกเทศมนตรีเพื่อเสนอความช่วยเหลือในการสอบสวนแล้ว
กฎหมายอาวุธปืนรัฐมิสซูรีทำให้ยากในการป้องกัน
Gun Violence Archive เผยว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งที่ 48 ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในปีนี้
ขณะที่ แอนดรูว์ แมคเคบ (Andrew McCabe) นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของสำนักข่าว CNN ระบุว่า การควบคุมความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบในขบวนพาเหรดครั้งนี้ที่คาดว่ามีประชาชนราว 1 ล้านคนออกมาร่วมฉลองชัยชนะให้ทีม Kansas City Chiefs นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากงานนี้เป็นพื้นที่เปิดและไม่มีประตูหรือจุดตรวจสอบทางเข้าออก
นอกจากนี้เขาชี้ว่า กฎหมายควบคุมอาวุธปืนในรัฐมิสซูรีซึ่งไม่บังคับให้ประชาชนต้องได้ใบอนุญาตจากรัฐก่อนที่จะซื้อหรือเป็นเจ้าของปืน ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากสามารถมีอาวุธปืน และใช้ปืนในเหตุขัดแย้งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
ภาพ: USA TODAY Sports via Reuters Connect
อ้างอิง:
- www.bbc.com/news/live/world-us-canada-68300903
- https://edition.cnn.com/us/live-news/kansas-city-chiefs-parade-shooting-02-14-24/index.html