เอ่ยชื่อ ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ สาวกเพลงเพื่อชีวิตทุกคนในประเทศนี้ต้องรู้จักเขาอย่างแน่นอน เขามีชื่อเสียงจากการทำเพลงแนวดนตรีเพื่อชีวิต ที่ถือว่าเป็น ‘ศิลปินเพื่อชีวิตคลื่นลูกที่ 3’ หากเรานับ ‘หงา คาราวาน’ เป็นคลื่นลูกแรก และ ‘วงคาราบาว’ เป็นคลื่นลูกที่สองของดนตรีแนวนี้
เส้นทางดนตรีของ ปู พงษ์สิทธิ์ เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 20 ปี บัดนี้อายุย่างเข้า 52 ปีแล้ว นั่นหมายถึง 31 ปีในวงการเพลงที่การันตี ‘การยืนระยะ’ บนเส้นทางนี้ ที่มีแฟนคลับและผู้ฟังทั้งไทย-เทศ ทุกเพศทุกวัย อย่างมากมายมหาศาล จนได้รับฉายาว่า ‘เจ้าพ่อเพลงรักเพื่อชีวิต’ อาทิ เพลง สุดใจ ที่บอกเล่าท่วงทำนองรักได้อย่างสุดใจสมชื่อ
ขณะที่เพลงเพื่อชีวิตแบบร็อกของ ปู พงษ์สิทธิ์ ก็มีลีลาและจังหวะความมันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้แฟนคลับโยกตามได้อย่างเมามัน และยังคงพาเราเข้าถึงอารมณ์เพลงได้อย่างเต็มที่ เช่นเพลงดังอย่าง หนุ่มน้อย หรือ กูเป็นนักศึกษา
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 21-22 กันยายน ปู-พงษ์สิทธิ์ ได้จัดคอนเสิร์ตสองรอบต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็นวันละรอบ แต่ละรอบมีความสนุกต่างกันโดยสิ้นเชิง สถานที่จัดงานคือธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ในธีม คำภีร์ Black • White ร็อคสุดขั้ว รักสุดใจ
หลายคนบอกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ ‘แปลก’ ตั้งแต่รูปแบบการจัดงาน เพราะทั้งสองวัน ‘ไม่มีความเหมือนกันเลย’ ในแง่ของสไตล์ดนตรี โดยวันแรกเป็นอะคูสติก บางจังหวะเป็นเพลงร็อก ที่เพิ่มพาร์ตของวงออร์เคสตราขนาดใหญ่อย่างวง Thailand Philharmonic Pop Orchestra เข้าไป ทำให้มีความละเมียดละไมในการเสพดนตรีมากยิ่งขึ้น คอนเสิร์ตในรอบ ‘รักสุดขั้ว’ จึงมีความอลังรัก แบบร็อกๆ ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ส่วนรอบที่สองนั้นจะเป็นสไตล์เพลงร็อกล้วนๆ ซึ่งมีความหนักหน่วงตามแนวของปู พงษ์สิทธิ์ หากใครที่เคยชมคอนเสิร์ตก่อนๆ ของเขามาแล้ว จะคุ้นชินและรู้สึกได้ว่ามีไม่มีความแตกต่างกันเท่าใดนัก
กลับมาที่ช่วงการแสดง ทันทีที่คอนเสิร์ต ‘รักสุดขั้ว’ เริ่มขึ้น แสงไฟฉายมาที่ ปู พงษ์สิทธิ์ กลางเวทีพร้อมกับกีตาร์ตัวเก่งของเขา แค่เพลงแรกอย่าง มาตามสัญญา ก็ทำให้แฟนคลับคึกคักลั่นฮอลล์ โดยเฉพาะช่วงที่เป่าเมาท์ออแกนในเพลงนี้
ตามมาด้วยเพลงที่มีเนื้องร้องคุ้นหู ‘โรงเรียนของหนู อยู่ไกลไกล๊ไกล…’ ที่ไม่ว่าจะวัยไหนก็ล้วนเคยร้องเพลงนี้ นั่นคือ โรงเรียนของหนู ที่ถ่ายทอดความลำบากของชีวิตนักเรียนที่ต้องการการศึกษาในถิ่นทุรกันดาร
ซีนที่ดีที่สุดมีอยู่สองช่วง คือเพลงดังอย่าง มือปืน ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า นี่คือเพลง มือปืน ที่เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยฟังมาในชีวิต เพราะมีการผสมสานกับวงออร์เคสตรา ยิ่งใหญ่อลังการประทับใจแฟนคลับมากจริงๆ
ขณะที่อีกซีนหนึ่งคือช่วงท้ายๆ ที่ได้แขกรับเชิญเป็นนักร้องสาวเสียงดีอย่าง แก้ม วิชญาณี มาถ่ายทอดเพลงดังอย่าง สุดใจ โดยมีวงออร์เคสตราเป็นแบ็กอัพ แฟนคลับที่มาชมในรอบนี้ต่างลุกขึ้นปรบให้กับซีนนี้ถล่มทลาย เพราะเป็นการถ่ายทอดเพลง สุดใจ ที่สุดแสนจะลงตัวจริงๆ
รอบเพลงรักสุดขั้ว ปู พงษ์สิทธิ์ มีลูกเล่นกับผู้ชมทุกราคาบัตร โดยการทำเวทีด้านข้างเพิ่มขึ้นมาเพื่อเดินไปหาผู้ชมได้ทั่วฮอลล์ เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยครั้งมากๆ สำหรับคอนเสิร์ตของเขา
ผู้ชมในรอบนี้เหมือนจะถูกหลอกเล็กๆ ให้ตายใจว่า เพลงที่จะเล่นทั้งหมดมีแต่เพลงรัก เพลงซึ้ง กัดกินหัวใจ แต่แล้ว ปู พงษ์สิทธิ์ ก็ปรับโหมดกะทันหัน ด้วยการเล่นเพลงเร็วๆ อย่าง ออกเมือง, นักแสวงหา, ด.ช. รามี่ ในเวอร์ชันร็อก ผสมวงออร์เคสตรา ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่นอกคิวการแสดง รวมถึงมีของแถมให้อย่างเพลง หนุ่มน้อย
ก่อนกลับ ปู พงษ์สิทธิ์ ปิดท้ายคอนเสิร์ตรอบรักสุดขั้วด้วยเพลงฮิต ที่ร้องส่งทุกคนกลับบ้าน ด้วยการเดินร้องไปทั่วทั้งฮอลล์อย่างเพลง รักเดียว และแน่นอนว่าหากใครที่ได้ติดตามคอนเสิร์ตของ ปู พงษ์สิทธิ์ มักจะขึ้นชื่อเรื่องการตีกันของแฟนเพลง แต่ทว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ทุกคนกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้ม และมีแต่ความรักในบทเพลง ตัวศิลปินเท่านั้น ที่ผสมผสานฟาดฟันความรู้สึกของแฟนเพลงได้อย่างลงตัวจริงๆ
ภาพ: นพเก้า คงสุวรรณ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
