ในยุคดิจิทัลที่สตรีมมิงและ YouTube ครองเมือง การขายซีดีอัลบั้มนับล้านชุดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในปี 2023 มีอัลบั้มของศิลปิน K-Pop ถึง 29 อัลบั้มขายได้มากกว่า 1 ล้านชุดในหนึ่งสัปดาห์ ดันให้ตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์
เค้าลางความสำเร็จเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี ตามรายงานของ Circle Chart ที่ติดตามยอดขายอัลบั้มของศิลปินเกาหลีทั่วโลก โดยอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดในครึ่งแรกของปี 2023 คือมินิอัลบั้ม FML ของ SEVENTEEN สร้างสถิติขายได้มากกว่า 4.5 ล้านชุดในสัปดาห์แรก จากนั้นก็ทำยอดขายไปได้ถึง 5.4 ล้านชุด, อัลบั้ม 5-Star ของ Stray Kids ขายได้ 5.2 ล้านชุด ตามมาด้วย TOMORROW X TOGETHER กับ The Name Chapter: Temptation ขายไปได้เกือบ 2.8 ล้านชุด
โดยปกติอัลบั้มของศิลปินเกาหลีที่ขายดีที่สุด 10 อันดับแรกมักมาจากวงดนตรีชายถึง 70% และบางทีก็มากกว่านั้น อย่างเช่น ในปี 2021 อัลบั้ม K-Pop ที่ขายดีที่สุดทั้ง 10 อันดับเป็นวงผู้ชายทั้งหมด แต่ปีนี้เป็นปีที่ศิลปินหญิงและศิลปินเดี่ยวเริ่มฉายแววโดดเด่น โดย aespa ทำยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 4 กับอีพีอัลบั้ม My World ทะลุหลัก 2 ล้าน หลังจากที่อัลบั้ม Born Pink ของ BLACKPINK เคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ TWICE กับอีพีอัลบั้ม Ready to Be อยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยยอดขายมากกว่า 1.6 ล้านชุด
ตามมาด้วย I’ve IVE อัลบั้มเต็มชุดแรกของ IVE ทำยอดขายไปได้ 1.5 ล้านชุด ส่วนอีพีอัลบั้ม Dark Blood ของ ENHYPEN ทำยอดขายมากกว่า 1.4 ล้านชุด และสตูดิโออัลบั้ม UNFORGIVEN ของ LE SSERAFIM มียอดขาย 1.3 ล้านชุด ขณะที่ผลงานเดี่ยวของสมาชิกวง BTS อย่าง Jimin และ Agust D หรือ Suga อยู่ในอันดับที่ 9 และ 10 ด้วยอัลบั้ม FACE และ D-DAY โดยมียอดขายเกือบ 1.3 ล้านชุด และมากกว่า 1.1 ล้านชุด ตามลำดับ นี่เป็นเพียงปรากฏการณ์ครึ่งปีแรกก่อนที่ศิลปินเบอร์ใหญ่อย่าง NewJeans, Jung Kook และ V จะออกอัลบั้มช่วงครึ่งหลังของปี
ตามรายงานของ Korea Times ยอดการส่งออกอัลบั้ม K-Pop เพิ่มขึ้น 17.1% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ด้วยเม็ดเงิน 132.9 ล้านดอลลาร์ โดยมีญี่ปุ่นเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดคิดเป็น 48.5 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา (25.5 ล้านดอลลาร์) และจีน (22.6 ล้านดอลลาร์) ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยมีความกังวลว่ายอดการส่งออกอัลบั้มเพลงของเกาหลีจะลดลง เนื่องจากสมาชิกวง BTS ทยอยเข้ารับราชการทหาร
จีนเคยเป็นผู้นำเข้าผลงานเพลง K-Pop รายใหญ่อันดับ 2 ก่อนจะถูกสหรัฐอเมริกาแซงหน้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูซีดีอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในอเมริกาช่วงครึ่งปีแรกก็พบว่า 9 ใน 10 อันดับแรกมาจากศิลปิน K-Pop โดยอัลบั้ม The Name Chapter: Temptation ของ TOMORROW X TOGETHER เป็นซีดีอัลบั้มที่มียอดขายมากที่สุดในช่วงครึ่งแรกที่ 395,000 ชุด ส่วน 5-Star ของ Stray Kids มาเป็นอันดับสองด้วยจำนวน 322,000 อัลบั้ม ตามมาด้วย TWICE, SEVENTEEN, ATEEZ, ENHYPEN, Jimin และ Agust D จาก BTS โดย Taylor Swift เป็นศิลปินที่ไม่ใช่ K-Pop เพียงคนเดียวที่อยู่ในชาร์ตกับอัลบั้มล่าสุด Midnights ซึ่งขายได้ 176,000 ชุด ตามรายงานของ Luminate บริษัทข้อมูลและสถิติในสหรัฐฯ
เบื้องหลังความสำเร็จของอัลบั้ม K-Pop มาจากความพิเศษที่ซ่อนอยู่ในเวอร์ชันต่างๆ ของอัลบั้ม เช่น การ์ดสะสม ภาพพิเศษ รวมถึงการผลิตออกมาแบบจำนวนจำกัด สิ่งเหล่านี้ดึงดูดใจแฟนคลับให้ควักกระเป๋าซื้อทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็นต้องฟังเพลงจากซีดีเลยด้วยซ้ำ
หากมองในภาพรวมตลอดทั้งปี มีถึง 29 อัลบั้มของศิลปิน K-pop ที่ขายได้มากกว่าล้านชุดภายในหนึ่งสัปดาห์ ตามรายงานของ Hanteo Chart และในจำนวนนั้นมี 5 อัลบั้มขายได้ 2 ล้านชุด สองอัลบั้มขายได้ 3 ล้านชุด อีกสองอัลบั้มทำยอดขายได้ 4 ล้านชุด และหนึ่งอัลบั้มขายได้มากกว่า 5 ล้านชุด
ในครึ่งปีหลังวง SEVENTEEN สานต่อความสำเร็จด้วยอีพีอัลบั้ม Seventeenth Heaven ขายได้ 5.09 ล้านชุดในหนึ่งสัปดาห์ที่วางจำหน่ายในเดือนตุลาคม ทำลายสถิติยอดขายอัลบั้ม K-Pop ตลอดกาล และหากนับจากเดือนมกราคมถึงต้นเดือนตุลาคมก็มียอดขายรวมมากกว่า 16 ล้านชุด เช่นเดียวกับ TOMORROW X TOGETHER กับ The Name Chapter: Freefall ขายได้ 2.25 ล้านชุดในเดือนเดียวกัน ในขณะที่ NCT DREAM ปล่อย ISTJ ในเดือนกรกฎาคม และขายได้ถึง 3.65 ล้านชุด ส่วน Jung Kook ก็สร้างสถิติศิลปิน K-Pop เดี่ยวคนแรกในประวัติศาสตร์ด้วยยอดขายอัลบั้ม Golden ทะลุ 2.43 ล้านชุดภายในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่ายเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอัลบั้มที่ยอดขายทะลุล้านภายในหนึ่งเดือน ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้ม YOUTH IN THE SHADE ของ ZEROBASEONE ขายได้ 1.82 ล้านชุด, EXIST ของ EXO ขายได้ 1.56 ล้านชุดในเดือนกรกฎาคม, อัลบั้ม Fact Check ของ NCT 127 ขายได้ 1.63 ล้านชุด และ IVE MINE ของ IVE ขายได้ 1.60 ล้านชุดในเดือนตุลาคม
ศิลปินระดับล้านอัลบั้มส่วนใหญ่ยังคงมาจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง HYBE ตีคู่มากับ Kakao บริษัทเทคโนโลยีเจ้าของ KakaoTalk ที่ขยายธุรกิจมาสู่วงการบันเทิงด้วยการซื้อเอเจนซี K-Pop และโปรดักชันเฮาส์ขนาดเล็กในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสองค่ายเคยมีกรณีพิพาทช่วงต้นปี เมื่อพยายามจะซื้อหุ้นของ SM Entertainment และในที่สุด Kakao ก็ชนะ โดยซื้อหุ้น 40% ของ SM Entertainment ได้สำเร็จ
HYBE และบริษัทในเครือมี Agust D, Jung Kook, ENHYPEN, LE SSERAFIM, SEVENTEEN และ TOMORROW X TOGETHER ส่วน Kakao มี aespa, EXO, NCT, NCT 127, NCT DREAM จาก SM Entertainment และ IVE จาก Starship Entertainment ซึ่ง Kakao เป็นเจ้าของทั้งคู่ ขณะที่ JYP Entertainment ก็ได้ Stray Kids และ TWICE ส่วน YG Entertainment มีวงบอยแบนด์น้องใหม่ TREASURE โดยปีนี้ BLACKPINK ไม่ได้ออกอัลบั้มใหม่
นอกจากยอดขายอัลบั้มจะช่วยบอกถึงความสำเร็จของศิลปิน อีกส่วนยังเป็นเครื่องวัดความแข็งแกร่งของแฟนด้อมได้อีกด้วย เพราะในยุคที่ไม่มีความจำเป็นต้องฟังเพลงจากแผ่นซีดี แต่แฟนๆ ก็พร้อมจ่ายให้กับทุกผลงานที่ศิลปินผลิตออกมา ซึ่งก็ไม่ใช่นักร้องระดับโลกทุกคนจะทำได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ในระยะหลังเราจึงได้เห็นศิลปินตะวันตกเบอร์ใหญ่หันมาทำโปรเจกต์กับศิลปิน K-Pop มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะต่อให้ดังแค่ไหนก็อยากแบ่งพื้นที่ในหัวใจแฟนคลับศิลปินฝั่งเอเชียกันทุกคน
อ้างอิง:
- www.forbes.com/sites/jeffbenjamin/2023/07/31/south-koreas-midyear-album-sales-report-shows-exponential-growth-increasing-representation/?sh=581f297921f6
- https://koreajoongangdaily.joins.com/news/2023-12-16/entertainment/kpop/In-a-digital-world-Kpop-fandom-keeps-physical-albums-alive/1936769?mibextid=xfxF2i
- https://musically.com/2023/07/19/k-pop-album-exports-grew-by-17-1-in-the-first-half-of-2023/
- https://koreajoongangdaily.joins.com/2023/07/20/entertainment/kpop/Kpop/20230720135646581.html