×

JWD เปิด 5 กลยุทธ์ ดันรายได้แตะหลักหมื่นล้านบาทใน 5 ปี ชู E-Commerce และ Property Solution เป็น New S-Curve

28.04.2021
  • LOADING...
JWD เปิด 5 กลยุทธ์ ดันรายได้แตะหลักหมื่นล้านบาทใน 5 ปี ชู E-Commerce และ Property Solution เป็น New S-Curve

บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD วางยุทธศาสตร์ 5 ปี (ภายในปี 2569) มีรายได้มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ด้วยการขยายฐานธุรกิจ Multimodal Transportation ผ่านการซื้อกิจการและร่วมทุน รวมถึงสร้าง New S-Curve ภายใต้งบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท 

 

ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน กล่าวว่า บริษัทวางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากการขับเคลื่อนธุรกิจในปัจจุบันให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจใหม่ที่จะเป็น New S-Curve และสามารถต่อยอดกับธุรกิจปัจจุบัน ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ 

 

โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากหลากหลายช่องทาง ทั้งกระแสเงินสด วงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน การเสนอขายหุ้นกู้ การจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อระดมทุนและทำสัญญาให้เช่าทรัพย์สินแก่กองทรัสต์  

 

สำหรับการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจปัจจุบัน (Core Focus) จะมุ่งเน้น 3 ส่วนคือ 1. กลุ่มขนส่ง 2. กลุ่มห้องเย็น 3. กลุ่มต่างประเทศ 

 

โดยกลุ่มขนส่งจะเน้นเพิ่มศักยภาพการให้บริการแบบ Multimodal Transportation หรือ ‘การขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบ’ ได้แก่ ทางบก ทางน้ำ และทางราง โดยมีแผนขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้บริหารจัดการท่าเรือน้ำลึก (Deep Sea Port) ในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี จากปัจจุบันที่ JWD ได้รับสิทธิ์บริหารท่าเทียบเรือชายฝั่ง (Barge Terminal) จากการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเป็นผู้ให้บริการยกขนและเคลื่อนย้ายตู้สินค้าทางรางภายในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง  

 

ส่วนธุรกิจห้องเย็น JWD จะขยายการลงทุนธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น (Cold Storage) ในรูปแบบการลงทุนเองหรือร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ที่สนใจ เพื่อพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าห้องเย็นในจังหวัดที่มีศักยภาพ ที่จะใช้เป็นฮับหรือศูนย์กลางรวบรวมสินค้าแก่ซัพพลายเออร์ในพื้นที่หรือจังหวัดใกล้เคียงและส่งต่อไปถึงจุดหมาย โดยให้ความสนใจพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือถึงภาคกลางตอนบน ธุรกิจโลจิสติกส์ในต่างประเทศอีก 5 ปีข้างหน้า จะเน้นลงทุนในประเทศกัมพูชา เวียดนาม และอินโดนีเซีย ผ่านการลงทุนเองและควบรวมกิจการ  

 

สำหรับการลงทุนขยายธุรกิจใหม่ บริษัทจะรุกขยายฐานธุรกิจ B2C (Business to Customer) โดยจะมุ่งผลักดันธุรกิจให้บริการ Self-Storage (ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้การลงทุนร่วมกับพาร์ตเนอร์ต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของโมเดลธุรกิจให้บริการค้นหาและจองพื้นที่ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าผ่านแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ การร่วมมือดังกล่าวสามารถผลักดันให้ JWD ก้าวเป็นผู้ให้บริการ Self-Storage ระดับภูมิภาค  

 

ส่วนการสร้าง New S-Curve ส่วนแรกคือการขยายสู่ธุรกิจ E-Commerce เนื่องจากมองเห็นศักยภาพการเติบโตของความต้องการ โดยจะเสริมบริการระบบจัดการคลังสินค้าออนไลน์ Order Fulfillment สำหรับคลังแห้งและแบบควบคุมอุณหภูมิ โดยในเฟสแรกมีพื้นที่ให้บริการ 5,920 ตร.ม. วางแผนเปิดให้บริการภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และบริการ Cold Chain Express ซึ่งที่ผ่านมามีการเติบโตแบบก้าวกระโดดสอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคปัจจุบันยุค New Normal บริษัทวางแผนเจาะกลุ่มเป้าหมายสินค้าเพื่อสุขภาพและยาเพิ่มเติม 

 

ส่วนที่สองของ New S-Curve คือ Property Solution โดยล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ภายใต้ชื่อ บริษัท ออริจิ้น เจดับเบิ้ลยูดี อินดัสเทรียล แอสเซท จำกัด เพื่อดำเนินกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งในส่วนของคลังสินค้าอัจฉริยะที่เป็นสมาร์ทแวร์เฮาส์, โครงการคลังสินค้าที่สร้างขึ้นตามความต้องการเฉพาะ (Built-to-Suit) และโครงการห้องเย็นสำเร็จรูป (Cold Storage) เป็นต้น ซึ่งขณะนี้มีความต้องการใช้งานจำนวนมาก รวมทั้งการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือกองรีทเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต 

 

นอกจากนี้ ยังศึกษาโอกาสเข้าลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ในไทยและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดกับธุรกิจในปัจจุบัน หรือลงทุนในธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 10-12% หรือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตและกำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 

 

ล่าสุดได้เข้าลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านระบบบริหารจัดการร้านอาหาร เพื่อต่อยอดขยายธุรกิจ Food Services และ Cold Chain Express Delivery เพื่อรองรับบริการด้าน Restaurant Platform ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ที่เป็นแหล่งรวมรวบวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ เลือกซื้อ โดยสามารถรวบรวมปริมาณการสั่งซื้อจากร้านอาหารต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่ง JWD จะทำหน้าที่รวบรวม คัดแยก และบริการจัดส่งวัตถุดิบไปยังร้านอาหารต่างๆ 

 

ผลประกอบการปี 2563 JWD มีรายได้รวม 3,922.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 3,660.24 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิปี 2563 จำนวน 289.97 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 362.79 ล้านบาท 

 

“ภาพรวมผลประกอบการปีนี้เชื่อว่าจะดีกว่าปีที่แล้ว โดยแนวโน้มในครึ่งแรกปีนี้น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะว่าภาคธุรกิจเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังยังต้องบริหารจัดการอย่างรัดกุม แต่ในส่วนกำไรสุทธิทั้งปีนี้ บริษัทคาดหวังให้กลับไปใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ผ่านมา”

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X