×

Justin Timberlake ออกมาขอโทษ Britney Spears และ Janet Jackson เรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมในอดีต

13.02.2021
  • LOADING...
Justin Timberlake

กระแสสารคดี Framing Britney Spears ของหนังสือพิมพ์ The New York Times ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในประเด็นไฮไลต์ของเรื่องก็คือการโฟกัสด้านพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของนักร้องหนุ่ม จัสติน ทิมเบอร์เลก หลังเลิกราจากแฟนสาว บริตนีย์ สเปียร์ส ที่เข้าข่ายความเกลียดชังผู้หญิง (Misogyny) และใช้สื่อในตอนนั้นทำให้ภาพพจน์เธอเสียหาย โดยล่าสุดหลังจัสตินโดนโจมตีจากแฟนคลับของบริตนีย์อย่างหนักหน่วง เขาได้ออกมาโพสต์คำแถลงขอโทษผ่านโซเชียลมีเดียเป็นครั้งแรก

 

“ผมได้เห็นข้อความ การแท็ก การคอมเมนต์ และความกังวลต่างๆ ซึ่งผมก็อยากออกมาพูดถึงประเด็นเหล่านี้ ผมขอโทษอย่างสุดซึ้งสำหรับพฤติกรรมช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของผม ที่ทำให้ปัญหามันร้ายแรงขึ้น และไม่ได้พูดในสิ่งที่ถูกต้อง ผมเข้าใจดีว่าผมพลาดไปในหลายเหตุการณ์ และได้เปรียบจากระบบของอุตสาหกรรมบันเทิงในตอนนั้น ที่ถูกสร้างมาเพื่อมีความเกลียดชังผู้หญิง (Misogyny) และมีการเหยียด (Racism)

 

“ผมอยากจะขอโทษ โดยเฉพาะ บริตนีย์ สเปียร์ส และ เจเน็ต แจ็คสัน ผู้หญิงสองคนที่ผมห่วงใยและเคารพ แม้รู้ดีว่าตัวเองผิดพลาดไป เหตุผลที่ผมอยากออกมาพูดถึงประเด็นนี้ด้วย ก็เพราะผมรู้ว่าทุกคนที่โดนผลกระทบควรได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้ โดยต่อไปผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาทางสังคมที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ และทำให้ตัวเองเติบโตด้วย” ทางจัสตินได้กล่าวในสองย่อหน้าแรก 

 

สำหรับการเอ่ยชื่อของ เจเน็ต แจ็คสัน ด้วย ก็เพราะประเด็นการแสดง Super Bowl Halftime Show เมื่อปี 2004 ซึ่งเกิดเหตุการณ์สุดอื้อฉาวที่สื่อเรียกว่า ‘Nipplegate’ เมื่อจัสตินผิดคิวกับชุดคอสตูม Alexander McQueen ของเจเน็ต และไปถอดผิดส่วนจนเปิดเผยหน้าอกด้านขวาของเธอ โดยหลังจากนั้นทางเจเน็ตก็โดนกระแสโจมตีขั้นสูงสุด ที่ส่งผลกระทบต่อด้านชื่อเสียงของเธออย่างมหาศาลจนถึงทุกวันนี้ก็ว่าได้ แต่จัสตินกลับไม่โดนอะไรมาก และความนิยมกลับมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Justin Timberlake (@justintimberlake)

 

นอกเหนือจากนั้น ในโพสต์คำแถลงของจัสตินบอกว่า “อุตสาหกรรมนี้เต็มไปด้วยปัญหาเชิงโครงสร้าง มันถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายผิวขาว ได้รับความสำเร็จมากกว่า โดยในฐานะผู้ชายที่ได้รับผลพลอยได้จากตรงนี้มาตลอด ผมก็ต้องเริ่มหาวิธีแก้ และพูดถึงประเด็นนี้มากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อก่อนผมไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้เลย ซึ่งต่อไปในอนาคตผมก็ไม่อยากได้รับความนิยมจากการที่คนอื่นโดนกดขี่อีกแล้ว”

 

จัสตินและบริตนีย์คบหากันมาตั้งแต่ปี 1999 จนถึง 2002 ซึ่งทั้งคู่ได้กลายเป็นคู่รักที่คนทั่วโลกให้ความสนใจมากสุดในเวลานั้น โดยในสารคดี Framing Britney Spears มีการพูดถึงเหตุการณ์หลังจากทั้งคู่เลิกกัน จัสตินเหมือนเลือกที่จะทำให้ภาพลักษณ์บริตนีย์เสียหาย และทำให้เธอเหมือนเป็นคนกระทำผิดในความสัมพันธ์ อย่างเช่นการเลือกนักแสดงหญิงที่หน้าตาคล้ายเธอในมิวสิกวิดีโอเพลง Cry Me A River หรือการห้สัมภาษณ์กับคลื่นวิทยุแห่งหนึ่งว่า เขาและบริตนีย์ได้มีเพศสัมพันธ์กันแล้ว แม้ทางนักร้องสาวก็เคยพูดเอาไว้เมื่อปลายปี 1999 ว่า อยากเก็บพรหมจรรย์จนถึงแต่งงาน 

 

โดยต่อมาในการสัมภาษณ์ของบริตนีย์กับ ไดแอน ซอว์เยอร์ ในปี 2003 ทางช่อง ABC ทางพีธีกรชื่อดังก็ยิงคำถามใส่ว่า บริตนีย์ไปทำอะไรผิดในความสัมพันธ์ที่ทำให้ทั้งคู่เลิกกัน ซึ่งทำให้บริตนีย์ดูเหมือนเป็นฝ่ายผิด โดยตอนนี้แฟนคลับของบริตนีย์หลายคนได้เรียกร้องให้ไดแอนออกมายอมรับผิด และขอโทษหลังได้ดูเหตุการณ์นี้อีกรอบในสารคดี

 

แม้เมื่อไปกี่วันก่อนทางแฟนหนุ่มคนปัจจุบันของบริตนีย์ อย่าง แซม แอสการี ได้ออกมาโจมตี เจมี สเปียส์ คุณพ่อและผู้พิทักษ์ชีวิตของนักร้องสาววัย 39 ปี แต่ทางบริตนีย์เองยังไม่มีการออกมาพูดถึงสารคดี Framing Britney Spears อย่างชัดเจน มีแต่การพูดอ้อมๆ ซึ่งแฟนเพลงหลายคนก็สงสัยว่า เธอเขียนแคปชันเองจริงๆ ไหม หรือเป็นทีมงานของเธอที่ควบคุมทุกอย่าง แต่สำหรับความสัมพันธ์ของบริตนีย์และจัสตินดูเหมือนจะโอเคขึ้น เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอชอบโพสต์คลิปวิดีโอที่เต้นไปกับเพลงอย่าง Holy Grail ของจัสติน พร้อมแท็กเขาด้วย

 

ภาพ: Getty Images

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X