วันนี้ (17 ตุลาคม) พล.ต.ต. รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินการยึดทรัพย์สินประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5 แสนล้านบาท ในรูปแบบบิทคอยน์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของสหรัฐฯ โดยทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของ เฉิน จื้อ หรือที่รู้จักในชื่อ วินเซนต์ ผู้ถือสัญชาติสหราชอาณาจักรและกัมพูชา และมีเชื้อสายจีน
เฉิน จื้อ ถูกดำเนินคดีในข้อหา สมคบคิดฉ้อโกงทางโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน จากการสั่งการให้กลุ่มบริษัท Prince Group จัดตั้งฐานหลอกลวงและบังคับใช้แรงงาน ซึ่งเข้าข่ายเป็นเครือข่ายขบวนการสแกมเมอร์รายใหญ่ในประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ สื่อมวลชนได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์ของบริษัทที่มีโลโก้และชื่อเดียวกันกับ Prince Group ของเฉิน โดยบริษัทดังกล่าวมีการเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในไทยด้วยเช่นกัน ผ่านบริษัท ปรินซ์ อินเตอร์เนชันแนล คอมพานี (Prince International) ที่มีสำนักงานในหลายประเทศ รวมถึงกรุงเทพมหานคร
โดยในเว็บไซต์ใช้ชื่อบริษัทว่า ไต้หวัน ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ (Taiwan Prince Real Estate Investment) และอ้างว่าบริษัทได้ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์บางโครงการของบริษัทไทยหลายแห่งอย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันความเชื่อมโยง
พล.ต.ต. รุทธพล กล่าวว่า หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ โดยในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2568 คณะทำงานที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จัดตั้งขึ้นเพื่อปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์ จะมีการประชุมนัดแรกในช่วงบ่ายเพื่อหารือในประเด็นนี้
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทันทีที่ปรากฏข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึก รวมถึงหาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเพื่อหาข้อเท็จจริง
ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าวันนี้ 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อไปปราฎอยู่ในเว็บไซต์ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ประกอบด้วย บ.เอสซี แอสเสท บ.แสนสิริ และ บ.ริชี่เพลซ 2002 ได้ออกหนังสือชี้แจงไปในทิศทางเดียวกันว่า บริษัทไม่เคยมีธุรกรรมใดๆ หรือการถือหุ้นร่วมกับบุคคลหรือกลุ่มบริษัทที่ถูกกล่าวถึง