วันนี้ (23 กุมภาพันธ์) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน พรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่สามัญของพรรค ประจำปี 2566 โดยมี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค บัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีของพรรค และสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก
จุรินทร์กล่าวเปิดการประชุมใหญ่อย่างเป็นทางการว่าการเลือกตั้งมีแนวโน้มว่าจะเป็นวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ไม่ว่าจะยุบสภาหรือครบวาระ และมีแนวโน้มจะยุบสภามากกว่า ในหลังสัปดาห์แรกหรือสัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม ภายใต้การบริหารของกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะเข้าสู่สนามการเลือกตั้งที่จะมาถึง พร้อมทั้งคน โดยพรรคจะส่งครบทั้ง 500 คน แบ่งออกเป็น ส.ส. แบบเขต 400 คน และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน
ขณะที่ด้านยุทธศาสตร์ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมที่จะเดินหน้ายุทธศาสตร์ ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’ พาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ตลอดเกือบ 4 ปีที่ร่วมรัฐบาล และผลงานก่อนหน้านั้นที่อดีตหัวหน้าพรรคทุกคนทำ และที่สำคัญระบบการบริหารจัดการภายในทำให้มีความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมาถึง
“ที่สำคัญผลงานเรื่องการเลือกตั้งช่วงหลังประสบความสำเร็จพอสมควร ผู้ว่าฯ กทม. ได้คะแนนเป็นอันดับสอง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ได้ 9 ที่นั่ง ส.ก. ที่ได้คะแนนเป็นอันดับสองถึง 7 ที่นั่ง นี่คือสัญญาณที่ทำให้อย่างน้อยในฐานะนักการเมือง ในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมืองพอสมควร เป็น ส.ส. 11 สมัย เคยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งใน กทม. มาหลายครั้ง หลายยุค ผมมั่นใจว่าเสียงตอบรับของพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม. ดีขึ้น การเลือกตั้งซ่อมสามครั้งหลังประชาธิปัตย์ชนะรวด เป็นสัญญาณที่ทำให้เรามีกำลังใจ อย่างน้อยก็ประเมินจากเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนว่าเราสามารถยืนหยัดลบคำปรามาสไปได้” จุรินทร์กล่าว
จุรินทร์ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เรามีความพร้อมอย่างยิ่งในการก้าวเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่ให้ความร่วมมือแล้วสนับสนุนพรรคด้วยดีเสมอมา ขอบคุณทุกท่านที่ยังหนักแน่น มั่นคง ไม่หวั่นไหว ไม่ว่าเราจะเจอแรงเสียดทานอะไรในช่วงที่ผ่านมา ตนมั่นใจว่าภายใต้ความร่วมมือ ร่วมใจ การเลือกตั้งครั้งหน้า ‘เราจะเดินขึ้น ไม่ใช่เดินลง’
