วันนี้ (12 มีนาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบรัฐบาลต่อกรณีที่กรมการค้าภายในเตรียมเอาผิดทางคอมพิวเตอร์กับโฆษกกรมศุลกากรที่เกรงว่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานหรือไม่นั้นว่า ตนไม่สามารถตอบได้ลึกไปถึงตรงนั้น แต่เมื่อวานนี้เมื่อได้เห็นข่าวที่ว่อนไปในโซเชียลแล้วตกใจ เพราะคำแถลงที่ปรากฏออกมาว่าโฆษกกรมศุลกากรเป็นผู้ให้ข่าวว่ามีการส่งออกไป 330 ตันนั้นทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาก จึงได้เร่งตรวจสอบไปว่าอธิบดีกรมการค้าภายในได้อนุมัติไปตามนั้นจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงคืออะไร เพราะว่าผู้ที่จะอนุมัติให้ส่งออกได้คืออธิบดีกรมการค้าภายใน ภายใต้ความเห็นชอบของอนุกรรมการ ซึ่งมีคณะทำงานร่วมกันอยู่ ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า ตั้งแต่ประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมมา ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้กำหนดนโยบายว่า ไม่อนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัยที่จำเป็นต้องใช้ในประเทศ
ดังนั้นในทางปฏิบัติก็จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศ ยกเว้นการผลิตหน้ากากภายใต้ข้อผูกพันทางทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะนำมาขายในประเทศไม่ได้อยู่แล้ว จึงเป็นหน้าที่อธิบดีกรมการค้าภายในจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งจะมีรายละเอียดแถลงให้ทราบต่อไป ขณะนี้ได้รับทราบว่าอธิบดีกรมการค้าภายในจะไปแจ้งความร้องทุกข์กรณีที่ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไป
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โทรศัพท์ติดต่อมาพูดคุยหรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า ไม่ได้โทร แต่ได้ประสานงานกับเลขานุการกรมศุลกากรเมื่อคืนนี้ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง ซึ่งก็คือคำแถลงของกรมศุลกากรที่ตามมาในนั้น ยืนยันข้อความประการหนึ่งว่า ในช่วงหลังจากมีการประกาศหน้ากากอนามัยให้เป็นสินค้าควบคุมก็มีการส่งออกน้อยมาก มีข้อความกำหนดอยู่ในนั้น ส่วนการอนุญาตอะไรบ้างให้ส่งออกนั้น อธิบดีกรมการค้าภายในซึ่งเป็นผู้อนุญาตจะได้ชี้แจงให้ทราบ เพราะในประกาศของกรมศุลกากร ระบุว่าไม่อนุญาตให้ส่งออก ยกเว้นว่าได้รับอนุญาต ซึ่งก็มีประเภทที่ประกาศอนุญาตและไม่อนุญาตไว้แล้ว แต่โดยนโยบายนั้นชัดเจนว่า หน้ากากที่ต้องใช้สำหรับคนไทยจะไม่อนุญาตส่งออก ยกเว้นว่าเหลือเฟือไปแล้ว อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่งที่จะมาพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากอุตตมโทรศัพท์มาประสานขอให้ถอนฟ้องจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจให้อธิบดีกรมการค้าภายในหรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจไปสั่งอธิบดีกรมการค้าภายใน ขณะนี้ท่านได้แจ้งความดำเนินคดีในฐานะที่ท่านเป็นผู้เสียหาย เราจะไปใช้ดุลพินิจว่าท่านไม่เสียหายอย่างนั้นคงไม่ถูกต้อง เพราะท่านก็ต้องรักษาสิทธิ์ของท่าน ปกป้องชื่อเสียงของท่าน อันนั้นขอให้ท่านเป็นผู้ตอบเอง ตนไปตอบแทนจะไม่เหมาะสม
สำหรับคำถามถึงการที่มีการมองกันว่าเป็นการเมืองระหว่างประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐนั้น จุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอตอบ แต่ทั้งหมดจะยืนยันได้ด้วยข้อเท็จจริง ความจริงดีที่สุด ไม่มีอะไรดีไปกว่าความจริง และเชื่อว่าในระยะยาวเมื่อสังคมพร้อมที่จะฟังความเห็น เมื่อพ้นจากความไม่ปกตินี้แล้ว ข้อเท็จจริงคือสิ่งที่จะบอกตัวมันเองได้ดีที่สุดว่ามันคืออะไร
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า