วันนี้ (14 มกราคม) จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานดินเนอร์ทอล์กภายใต้หัวข้อเสวนา ‘Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market’ ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจว่า อยากให้ 3 เสาหลักด้านเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.), สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พูดคุยกัน เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจประเทศ แต่ ธปท. ไม่ยอมคุยกับใคร เป็นการส่งสัญญาณว่าไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่
จุลพันธ์กล่าวว่า ธปท. มีการพูดคุยกับ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ธปท. ถือเป็นส่วนงานหนึ่งของรัฐ โดยมีการหารือเรื่องกรอบเงินเฟ้อ ซึ่งที่ผ่านมาหลุดเป้าอยู่ที่ 0.4 ทางคณะรัฐมนตรีก็รับทราบและมีความเห็นว่า ในอนาคตจะต้องกระชับเป้าหมายให้เป็นไปตามที่พูดคุยกันไว้คืออยู่ที่ 1-3% เนื่องจากมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ส่วนที่ทักษิณกล่าวว่า ธปท. ไม่ยอมพูดคุยกับเพื่อนนั้น จุลพันธ์ปฏิเสธว่า ไม่ทราบ เพราะหน้าที่ของตนไม่ได้เป็นผู้พูดคุยกับ ธปท. แต่เท่าที่ทราบก็น่าจะยังมีการสื่อสารกันอยู่
ส่วนที่ทักษิณออกมาระบุว่า ในปี 2569 สัญญาณทางเศรษฐกิจจะเคลื่อนไหวมากขึ้น และในปี 2570 ประชาชนจะล้วงกระเป๋าแล้วเจอเงินมากขึ้น รัฐบาลจะสามารถทำได้จริงหรือไม่นั้น จุลพันธ์ระบุว่า เราก็คาดหวังและพยายามอย่างเต็มที่ สิ่งที่เราทำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึง Entertainment Complex, Financial Hub และการเติมเงินหมื่น ทั้งหมดคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนมีเศรษฐกิจปากท้องที่ดีขึ้น
จุลพันธ์กล่าวอีกว่า หากถามว่างานยากหรือไม่ ยอมรับว่ายาก แต่คงพอใจกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียง 2.5% ไม่ได้ เพราะเราเป็นตัวแทนจากประชาชน รับโจทย์มาจากประชาชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ได้ ต้องขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าปี 2568 การเติบโตทางเศรษฐกิจจะแตะที่ 3% แน่นอน ปีหน้า ปีต่อๆ ไป โจทย์สุดท้ายจะต้องโตอยู่ที่ 5% ตามที่ตนพูดไว้ตั้งนานแล้ว
เมื่อถามว่า หากการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ได้ 3% จะใช้อะไรเป็นตัวการันตี จุลพันธ์ระบุว่า ใช้อะไรการันตีไม่ได้ แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด หากไม่ตั้งเป้าไว้สูงก็คงไม่มีวันเดินไปถึง มองพระจันทร์ก็ยังคว้าดาวได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเดินไปให้ไกลที่สุด พร้อมย้ำว่า รายงานการทำงานให้นายกรัฐมนตรีตลอดเวลา