JP Morgan หรือ เจ.พี. มอร์แกน ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวช้า สาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของไทย ขณะที่กำลังซื้อในประเทศยังถูกกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ
เจ.พี. มอร์แกน ระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเผชิญกับปัญหาหลายประการ ทั้งอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
นอกจากนี้การกลับมาแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ในจีน และนโยบาย Zero-COVID ยังส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยอีกด้วย
“นโยบายปลอดโควิดของจีนและเงินทุนไหลออกเมื่อเร็วๆ นี้ มีแนวโน้มว่าจะชะลอการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีนขาออก” JPM กล่าว
จากเหตุผลดังกล่าว ฝ่ายวิจัยและแนะนำการลงทุนจึงปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย เป็น ‘Neutral’ จากเดิม ‘Overweight’
ทั้งนี้ ประเทศไทยหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของโลกก่อนเกิดโรคระบาด และเป็นหนึ่งในประเทศแรกในเอเชียที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ภายใต้มาตรการกักตัวที่กำหนด
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยคิดเป็นสัดส่วน 12% ของ GDP ประเทศ ในปีก่อนเกิดโรคระบาด โดยในปี 2562 นักท่องเที่ยวมากกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนที่มาเยือนประเทศไทยเป็นชาวจีน ขณะที่ในปี 2565 ประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศราว 5-10 ล้านคน เช่น มาเลเซีย และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP