×

จดหมายจากใจ ‘กัปตันเฮนโด’: “เราจะชูถ้วยแชมป์เพื่อพวกคุณทุกคน”

22.07.2020
  • LOADING...

แม้จะไม่ใช่ภาพที่ทุกคนฝันไว้ เมื่อการชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีของทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล จะเกิดขึ้นในสนามแอนฟิลด์ที่ว่างเปล่า ไม่มีแฟนบอลแม้แต่คนเดียวที่ได้ร่วมฉลองด้วยในค่ำคืนนี้ รวมถึงครอบครัวของนักเตะที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสนามได้ แต่กัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยังเชื่อว่านี่คือช่วงเวลาที่พิเศษอยู่ดีสำหรับลิเวอร์พัดเลียนทุกคน


ในโอกาสนี้ กัปตันทีมลิเวอร์พูลคนแรกที่จะได้ชูถ้วยแชมป์ต่อจาก อลัน แฮนเซน เมื่อปี 1990 จึงได้ตัดสินใจเขียนถึงเหล่าเดอะ ค็อป ซึ่งเป็นบทความในหนังสือแมตช์โปรแกรมฉบับประวัติศาสตร์เพื่อร่วมแบ่งปันความรู้สึกที่มีร่วมกัน

 

เพื่อให้ทุกคนได้มั่นใจว่าแม้ตัวจะไม่ได้มาอยู่ด้วยกันตอนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สโมสรและนักฟุตบอลทุกคนพยายามขอร้องแฟนๆ ให้ติดตามบรรยากาศการฉลองแชมป์อยู่ที่บ้านเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่โรคโควิด-19 จะระบาดซ้ำ แต่ใจของทุกคนจะอยู่ร่วมกันที่สนามแน่นอน

 

และนี่คือสิ่งที่ ‘กัปตันเฮนโด’ เขียนถึงแฟนๆ ลิเวอร์พูลและทุกคนที่เขาอยากขอบคุณ

 

 

“ผมถูกถามมาหลายครั้ง หลังจากที่เราได้รับการยืนยันว่าเราเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก เพื่อให้สรุปถึงสิ่งที่ผมรู้สึก ซึ่งผมก็ไม่ภูมิใจจนเกินไปที่จะยอมรับว่าผมไม่คิดว่าเราจะสามารถหาคำตอบที่ดีได้ในเวลานี้

 

“ส่วนหนึ่งของเรื่องนี้นั้นเป็นเพราะความรู้สึกในตอนแรกมันเหมือนกับเรื่องที่เหลือเชื่อ ทุกคนได้เห็นสื่อสัมภาษณ์เราไม่กี่นาทีหลังจากที่เราได้เป็นแชมป์ อีกส่วนหนึ่งก็คือการที่เรายังมีสิ่งที่เราต้องทำ และมันก็เป็นการรอคอยที่ยาวนานกว่าจะถึงตอนนี้

 

“ผมคิดว่าตอนนี้ผมสามารถจะหาคำตอบที่ดีได้แล้ว และคำตอบคือความรู้สึกซาบซึ้ง ในทีมที่ประสบความสำเร็จนั้นมีคนอีกมากมายที่มีส่วนรับผิดชอบด้วยกับความสำเร็จนี้ เพียงแต่นักฟุตบอลจะได้สิทธิพิเศษที่จะได้รับความสนใจมากกว่า ได้รับคำชื่นชมมากกว่า และได้รับรางวัลที่ใหญ่กว่า แต่คนที่อยู่เบื้องหลังทีมซึ่งมีมากมายเหลือเกินทั้งบุคคลหรือกลุ่มนั้นเป็นคนที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้

 

“ที่ลิเวอร์พูล นักฟุตบอลทุกคนที่อยู่ในห้องแต่งตัวต่างตระหนักดีว่าพวกเราโชคดีแค่ไหนที่ได้มีเหล่าคนที่ดีที่สุดในโลกคอยดูแลเราอย่างนี้ และในค่ำคืนวันพุธนี้ ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องแสดงออกถึงความรู้สึกขอบคุณพวกเขา

 

“สำหรับแฟนๆ แน่นอนว่าพวกคุณคือปัจจัยสำคัญ ไม่มีพวกคุณ สโมสรก็ไม่มีทางเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะคุยกับใครบนโลกนี้เกี่ยวกับสโมสรลิเวอร์พูล บทสนทนานั้นจะย้อนกลับมาถึงเรื่องของความรู้สึกที่ร้อนแรง และทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นได้เพราะแฟนบอล สโมสรแห่งนี้เป็นสโมสรที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่แรงกล้า และมันเป็นสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องอายจากข้อเท็จจริงนี้ บางครั้งมันก็เป็นความกดดันบ้าง แต่มันก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีหรือร้ายก็ตาม

 

“เราเองก็รู้สึกเสียใจที่แฟนๆ ของเราจะไม่ได้มาอยู่ร่วมกัน แต่เราสามารถจะทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่เราจะได้แบ่งปันร่วมกัน หากเราอยากจะให้มันเป็นแบบนั้น

 

“ถ้าใครได้อ่านคอลัมน์ชิ้นนี้หรือได้อ่านถ้อยคำเหล่านี้ก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรให้ชัดเจนกว่านี้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการที่พวกคุณจะต้องอยู่ให้ห่างจากแอนฟิลด์และฉลองในแบบของคุณเองที่บ้าน เมืองลิเวอร์พูลได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหนักหนาสาหัสแล้ว และทำให้การสนับสนุนแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งหน่วยฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่สำคัญต่างๆ ได้โปรดรับฟังคำแนะนำและอยู่ให้ห่างกัน เพราะมันจะไม่ปลอดภัย

 

“ผมขอให้สัญญาว่าพวกคุณจะอยู่กับเราเสมอในตอนที่เราได้ชูถ้วยแชมป์ ต่อให้ตัวของคุณจะไม่ได้อยู่ในสนาม เราจะชูถ้วยแชมป์เพื่อพวกคุณทุกคน เพราะพวกคุณคือคนที่เป็นแรงผลักดันให้เราทำความฝันได้สำเร็จ แต่คุณค่าที่แท้จริงของสโมสรแห่งนี้คือการดูแลซึ่งกันและกัน และนั่นหมายถึงการที่คุณก็สามารถจะให้กำลังใจเราอยู่ที่บ้านในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยได้

 

“นอกเหนือจากแฟนๆ แล้ว อีกหนึ่งกลุ่มที่สนับสนุนเราก็คือเหล่าสตาฟฟ์ที่ทำงานให้กับสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือคนที่อยู่ที่เมลวูด แต่ก็รวมถึงอีกหลายๆ คนที่เราอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยนัก สโมสรใหญ่อย่างลิเวอร์พูลจะสามารถบริหารจัดการไปสู่ความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อสตาฟฟ์ทุกคนพยายามทำงานอย่างสุดความสามารถ และเราก็ได้รับสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในหรือนอกสนามก็ตาม

 

“ที่แอนฟิลด์ ตรงถนนชาเปล ร้านค้า มูลนิธิลิเวอร์พูล ทีมที่ทำงานร่วมกับชุมชน และอื่นๆ เรามีเจ้าหน้าที่นับร้อยๆ คนที่พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจะทำให้ลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จ และเป็นกองหนุนที่นำไปสู่สิ่งที่เราทำได้ในสนาม ถ้าสโมสรบริหารได้ไม่ดี ทีมย่อมไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ

 

“โชคไม่ดีเช่นกันที่ในสถานการณ์ตอนนี้เราคงไม่ได้พบกับทุกคนที่เราภูมิใจอย่างยิ่งที่จะเรียกพวกเขาว่าเพื่อนร่วมงาน แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่รู้ถึงความทุ่มเทและตระหนักในความสำคัญของงานที่พวกเขาได้ทำ

 

“สตาฟฟ์ที่เมลวูด พวกเรารู้จักกันทุกคน และในนามของผู้เล่นทุกคน ผมอยากจะขอใช้โอกาสนี้ในการบอกกับพวกเขาว่าพวกเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของเรา ผมคิดว่าผมได้มีสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในประเทศ และนักเตะทุกคนในทีมเองก็พูดแบบเดียวกัน

 

“ทุกวันเราจะได้รับการดูแลจากทีมงานมืออาชีพระดับโลกที่สร้างวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทำให้ผู้เล่นทุกคนใช้ชีวิตได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นทีมโค้ช ทีมแพทย์ ทีมฟิตเนส ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และเชฟ ไปจนถึงเจ้าหน้าที่สนาม เจ้าหน้าที่ทั่วไป หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พวกเขาอุทิศชีวิตเพื่อทำงานซึ่งจะทำให้ทีมของเราดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

“มันจึงเป็นสิ่งที่ไม่เกินเลยจากความจริงไปว่าหากปราศจากคนเหล่านี้แล้ว ทีมจะไม่มีวันมาถึงจุดนี้ ถ้าไม่มีพวกเขาแล้ว เมลวูดคงจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป และคงจะไม่รู้สึกถึงพลังงานได้มากเหมือนเดิม ผมหวังว่าทุกคนที่นั่นจะได้รู้ว่าพวกเขาสำคัญกับเรามากแค่ไหน และตระหนักว่าแชมป์ครั้งนี้ก็เป็นของพวกเขาเช่นเดียวกัน

 

“ถ้าเมลวูดคือ ‘บ้าน’ จากมุมของการทำงานแล้ว ครอบครัวจริงๆ ของพวกเราเองก็สำคัญไม่ได้น้อยไปกว่ากัน และเป็นคนที่พวกเราอยากจะพบหลังได้ชูถ้วยแชมป์ 

 

“แน่นอนว่ารางวัลที่เราได้รับในฐานะนักฟุตบอลอาชีพหมายถึงการที่ทุกคนในครอบครัวของเราจะได้ประโยชน์ไปด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่มักจะไม่ค่อยมีใครรู้หรือมีใครเขียนถึงคือความเสียสละของพวกเขา คนที่อยู่ใกล้ชิดกับเรามากที่สุด

 

“ผมสามารถพูดได้จากมุมส่วนตัวเลยว่าถ้าปราศจากครอบครัว ผมคงไม่มีวันมาถึงจุดนี้ได้ ถ้าปราศจากความรักและกำลังใจ ความเข้าใจ ความอดทนของพวกเขา พวกเขาคือคนที่ได้เห็นเราในวันที่อ่อนแอที่สุด และพวกเขาก็พยายามประคับประคองเรา ผู้เล่นทุกคนในทีมจะพูดเหมือนกันหมดแน่นอน ผมมั่นใจ ถึงเหล่าคนที่อยู่ใกล้ชิดที่สุดและเป็นคนที่รักที่สุด

 

“ผมโชคดีมากกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผม แต่สิ่งที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องสงสัยเลยก็คือครอบครัวของผม อะไรก็ตามที่ผมได้รับจะไม่มีความหมายเลย หากผมไม่ได้แบ่งปันและได้อุทิศให้แก่พวกเขา

 

“เมื่อเราชนะอะไรก็ตาม นักฟุตบอลคือคนที่ได้ชูถ้วยแชมป์ แต่ครอบครัวต่างหากคือคนที่อุ้มชูนักฟุตบอล ในสายตาของพวกเราแล้ว ช่วงเวลาเหล่านี้มันคือช่วงเวลาของพวกเขาด้วยเช่นกัน

 

“และสุดท้ายคือทีมนี้ ผมควรจะพูดอะไรถึงทีมและผู้จัดการของเราอย่างนั้นหรือ ผมบอกไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการสรุปความรู้สึกผลงานในฤดูกาลนี้และการได้เป็นแชมป์อังกฤษว่ามันคือความรู้สึกซาบซึ้ง และผมคงไม่รู้จะชื่นชมเพื่อนๆ และบอสของเราอย่างไรให้สมกับที่เป็น

 

“สิ่งที่นักเตะในทีมชุดนี้ของเราคิดกับ เจอร์เกน คล็อปป์ ไม่ใช่เรื่องลับอะไร ถ้าในมุมของแฟนๆ พวกคุณรู้สึกชื่นชมกับสิ่งที่เขาทำเพื่อสโมสรแห่งนี้ อยากให้รู้ไว้เลยว่าในทีมของเรา ความรู้สึกนั้นมันยิ่งทวีคูณ เขาคือผู้นำของเรา เขาเป็นคนที่กำหนดทุกอย่างตั้งแต่วันแรกที่เราเข้ามา

 

“อย่างที่ผมบอกไว้ก่อนหน้านี้ และบอสก็พูดด้วยตัวเองว่าเขาได้สานต่อทีมที่มีรากฐานที่ดีที่ได้รับการวางไว้โดย เซอร์ เคนนี (ดัลกลิช) และเบรนแดน (ร็อดเจอร์ส) และผู้เล่นอย่าง สตีวี (เจอร์ราร์ด) แต่สำหรับผมแล้ว เจอร์ราร์ดคือคนที่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เรามาถึงตรงนี้ที่เรากำลังจะได้แชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปี

 

“สำหรับเพื่อนๆ ในทีม คนที่ผมใช้เวลาร่วมกันและต่อสู้ร่วมกันในสนาม ผมบอกได้เต็มหัวใจว่าผมเห็นพวกเขาทุกคนเป็นครอบครัว ผมรู้สึกว่าพวกเขาทำอะไรมากมายเพื่อผม และผมก็ทำทุกอย่างเพื่อพวกเขา นั่นคือสิ่งที่เรามี และเราทุกคนรู้สึกโชคดีที่เรามีกันและกัน

 

“การอยู่ในทีมที่ดีที่ได้แชมป์ด้วยเป็นเรื่องที่ดี แต่การได้อยู่ในทีมที่เราเป็นพี่เป็นน้องกันและชนะไปด้วยกันมันเป็นอีกเรื่อง แต่ก็มีคนที่จะจากเราไปเพื่อไปหาความท้าทายใหม่ ซึ่งเราจะต้องบอกลากับสองคนสำคัญของเราในฤดูร้อนนี้ และทั้งคู่จะได้รับคำขอบคุณจากเราถึงสิ่งที่พวกเขาได้ทำ

 

“นาธาเนียล ไคลน์ ยังคงเป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่ดีที่สุดในอังกฤษสำหรับผม และผมรู้ว่าไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ทีมนั้นก็เหมือนถูกหวยที่ได้นักเตะพรสวรรค์อย่างเขาไป เราทุกคนขออวยพรให้เขาโชคดี

 

“และอีกคนคือ อดัม ลัลลานา เพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผม ไม่ใช่แค่ในการเล่นฟุตบอล แต่หมายถึงในชีวิตของผมด้วย อดัมเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดที่ผมได้ร่วมเล่นด้วย อดัมเป็นมืออาชีพที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งที่ผมได้ใช้เวลาด้วย เขาเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดในห้องแต่งตัวที่ผมได้แบ่งปันด้วย สิ่งที่เขาเพื่อทีมในตอนนี้นั้นไม่สามารถจะมองข้ามได้ เพราะการคว้าแชมป์นั้นไม่ใช่ชนะแค่ในฤดูกาลเดียว แต่มันเป็นการเดินทาง

 

“อดัม ลัลลานา คือคนที่กำหนดมาตรฐานให้เราทุกคนได้เดินตาม และผลของมันคือการที่สโมสรได้ก้าวเดินไปข้างหน้า คงไม่มีใครจะคิดถึงเขามากเท่าผมอีกแล้ว แต่ผมรู้ดีว่าเขายังคงเล่นในระดับสูงสุดได้อีกหลายปี ดังนั้นเราจะได้เจอกันอีกครั้ง และเขาคงจะป่วนเราได้มากด้วยความสามารถและพลังของเขา

 

“ก่อนจะจบ เมื่อถ้วยแชมป์ได้ถูกชูขึ้น ทุกคนที่ผมได้กล่าวถึงจะอยู่ด้วยกันกับเราบนเวทีนั้น แม้จะไม่ได้มาด้วยตัวเอง แต่อย่างน้อยใจของทุกคนก็อยู่ตรงนี้ มือของพวกเขาทุกคนจะได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนๆ ของเรา สตาฟฟ์ ครอบครัว หรือทีมงาน

 

“สิ่งที่ดีที่สุดคือสิ่งที่เราทำได้สำเร็จร่วมกัน และนี่คือความสำเร็จร่วมกันของพวกเราที่เราควรจะได้ร่วมแบ่งปันความสุขสมหวังแก่กัน

 

“ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง”

 

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

 

 

ลิเวอร์พูลเชิญชวนให้แฟนๆ ร่วมส่งภาพหรือวิดีโอการฉลองแชมป์มาให้ เพื่อแชร์ความสุขร่วมกันในแฮชแท็ก #LFCatHome

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

FYI
  • ถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกจะมี 2 ใบ โดยใบแรกให้สโมสรเก็บไว้ ขณะที่อีกใบจะใช้โชว์ตามที่ต่างๆ
  • เหรียญแชมป์มี 40 เหรียญด้วยกัน ทำจากเงิน โดยจะให้ใครได้บ้าง (นักฟุตบอล, สตาฟฟ์โค้ช, เจ้าหน้าที่) เป็นวิจารณญาณสำหรับสโมสร แต่โดยหลักแล้วผู้เล่นที่ลงเล่นครบ 5 นัดจะได้เหรียญ
  • คล็อปป์เคยบอกว่าใครที่ไม่ได้เหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก ไม่ต้องเสียใจ เขาจะทำเหรียญพิเศษให้เอง
  • ท่าดีใจซอยเท้าของเฮนเดอร์สันมีชื่อว่า #HendoShuffle
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising