หลังจากปล่อยให้แฟนเพลงชาวไทยรอคอยกันมาอย่างยาวนานเกือบจะสองทศวรรษ ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นแล้วเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (3 เม.ย.) สำหรับคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทยของ ‘จอห์น เมเยอร์’ ศิลปินหนุ่มมากฝีมือ เจ้าของ 7 รางวัลแกรมมี่และสุดยอดมือกีตาร์แห่งยุค
สำหรับคอนเสิร์ตจอห์น เมเยอร์ จัดขึ้นที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Asia Tour 2019 ซึ่งก่อนจะมาถึงคิวของกรุงเทพมหานคร จอห์นได้ไปเปิดการแสดงตามเมืองใหญ่ในทวีปเอเชียมาแล้ว ทั้งโอ๊กแลนด์, บริสเบน, เมลเบิร์น, ซิดนีย์ และสิงคโปร์ ก่อนที่ทัวร์จะจบลง ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 11 เมษายนนี้
ตัดภาพมาที่กรุงเทพฯ บรรยากาศภายในอิมแพ็ค อารีน่านั้นเต็มไปด้วยความครึกครื้นของแฟนเพลงชาวไทยทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ที่ฝ่าฟันสภาพการจราจรอันโหดร้ายบนท้องถนนเพื่อมารอเสพความสุขจากศิลปินที่พวกเขารักและรอคอยมาเนิ่นนาน
ตามกำหนดการของโชว์ จอห์นจะต้องขึ้นเล่นในเวลาสองทุ่มครึ่ง แต่ปรากฏว่ามีการเลตเกิดขึ้นเล็กน้อยประมาณ 20 นาที แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความน่าหงุดหงิดใจอะไรให้กับแฟนๆ เท่าไรนัก
ตลอดเวลา 3 ชั่วโมงเต็มของโชว์ก็ต้องยอมรับว่า จอห์น เมเยอร์เป็นศิลปินที่เต็มไปด้วยพลังงานเหลือล้น เพราะขนาดจำนวนเพลงในเซตลิสต์ที่มีมากกว่า 20 เพลง พี่เขาก็ยังคงร้องได้แบบต่อเนื่อง โดยที่เสียงยังอยู่ดีไม่มีตก
เซตลิสต์ของโชว์เมื่อคืนที่ผ่านมานั้นก็เรียกได้ว่าเต็มอิ่มและฟินกันถ้วนหน้า เพราะพี่จอห์นขนเอาเพลงฮิตทั้งใหม่และเก่ามาเล่นเพียบ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เราเชื่อว่าเพลงที่เล่นเมื่อคืนนี้กว่า 80% เป็นเพลงที่ทุกคนอยากฟัง ไล่มาตั้งแต่เพลงเปิดโชว์อย่าง No Such Thing เรื่อยไปยัน Your Body Is a Wonderland, Clarity, Why Georgia, Daughter, I Don’t Trust Myself, Belief, Stop This Train, Waiting On the World to Change, Slow Dancing In a Burning Room, Heartbreak Warfare, Who Say, Edge of Desire และอีกมากมาย
ในช่วงหนึ่งของโชว์ จอห์นได้กล่าวทักทายแฟนเพลงอย่างเป็นกันเองพร้อมบอกว่า เขารู้สึกดีใจมากที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่นี่สักที แถมยังมีการเล่าเรื่องตลกๆ เกี่ยวกับคนไทยที่ Direct Message ไปหาเขาในอินสตาแกรมเพื่อขอร้องให้จอห์นมาเปิดคอนเสิร์ตในประเทศไทยอีกด้วย ก็นับเป็นโมเมนต์น่ารักๆ ที่เกิดขึ้น
จากที่สังเกตคือ โชว์ในช่วงแรกจะเป็นเพลงจากอัลบั้มเก่าเสียเยอะ โดยเฉพาะอัลบั้ม Continuum ที่ได้รางวัลแกรมมี่สาขาอัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยมเมื่อปี 2007 ไฮไลต์ของช่วงนี้คือตอนที่จอห์นเล่นเพลง Gravity เพลงจังหวะช้าสุดไพเราะที่เราแอบเซอร์ไพรส์เล็กน้อย เพราะนึกว่าเขาจะเก็บไว้เล่นตอนอังกอร์
Gravity ถูกบรรเลงขึ้นท่ามกลางแสงแฟลชที่ทุกคนในฮอลล์พร้อมใจกันเปิดขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือแล้วยกมือส่ายไปมาในระหว่างที่จอห์นกำลังร้องและโซโล่กีตาร์ มันช่างเป็นภาพที่สวยงามและนำมาซึ่งอารมณ์ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม
สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ตลอดเวลาที่อยู่ในคอนเสิร์ตคือ จอห์น เมเยอร์เป็นคนที่มีความเป็นศิลปินอยู่ในตัวสูงมาก และเขาให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าปัจจัยภายนอกอย่างอื่นเสมอ เขาแต่งตัวง่ายๆ ส่วนเวทีไม่ต้องออกแบบอะไรเยอะแยะ พอถึงเวลาก็ขึ้นไปเล่นแล้วปลดปล่อยพลังทางดนตรีออกมาให้ทุกคนได้เห็น นั่นคือตัวตนของจอห์น เมเยอร์
อีกสิ่งที่น่าสนใจและจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่องทักษะและความสามารถในการเล่นกีตาร์ของจอห์น ซึ่งยอดเยี่ยมเสียจนเรารู้สึกว่าแค่เสียเงินเข้ามาดูจอห์น เมเยอร์รีดกีตาร์อย่างเดียวก็คุ้มค่าแล้ว สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดมือกีตาร์อันดับต้นๆ ของยุคนี้อย่างแท้จริง
ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตเป็นช่วงที่สนุกสนานมากที่สุด เพราะแฟนๆ จะได้ฟังแต่เพลงใหม่ โดยจอห์นเริ่มจากการเล่นเพลงจากอัลบั้มชุดล่าสุด The Search of Everything 4 เพลงติดอย่าง Love On The Weekend, Changing, In The Blood และ Still Feel Like Your Man ก่อนจะกลับมาเล่นอังกอร์ 2 เพลงสุดท้ายอย่าง New Light เพลงที่เล่นสดได้สนุกสนานมากกับ I Guess I Just Feel Like ซิงเกิลล่าสุดที่เพิ่งออกมาได้ไม่นาน ปิดท้ายโชว์ครั้งแรกในเมืองไทยไปอย่างสวยงาม
แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกของจอห์น เมเยอร์ สำหรับการเล่นคอนเสิร์ตในประเทศไทย แต่เขาก็ทำมันออกมาได้อย่างดีและสมบูรณ์แบบที่สุด เราหวังว่าจอห์นก็คงจะเห็นแล้วนะว่าฐานแฟนเพลงของเขาในเมืองไทยมันหนาแน่นขนาดไหน ในอนาคตหากเขากลับมาอีก เราเชื่อว่าคนก็คงต้องแย่งกันซื้อบัตรจน Sold Out ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขายอีกเหมือนเดิมแน่นอน
ภาพ: Live Nation BEC-Tero
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า