ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์อาวุโสของรัฐบาลอังกฤษเตือนว่า เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจแพร่ระบาดในอังกฤษเร็วยิ่งกว่าในแอฟริกาใต้ พร้อมทั้งระบุว่าโอไมครอนกำลังทำลายความหวังในการควบคุมการแพร่ระบาด
ศาสตราจารย์จอห์น เอ็ดมันด์ นักระบาดวิทยาจาก London School of Hygiene and Tropical Medicine และสมาชิกคณะที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์สำหรับเหตุฉุกเฉิน (SAGE) ของรัฐบาลอังกฤษ กล่าวในระหว่างการสัมมนาออนไลน์ของราชสมาคมการแพทย์ เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ธันวาคม) ว่า ‘มีความเป็นไปได้อย่างมาก’ ที่จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอนในชุมชนมากกว่าที่ได้รับการยืนยันโดยการตรวจคัดกรอง และตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
สำนักงานประกันสุขภาพของสหราชอาณาจักรรายงานพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มอีก 249 รายในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นจำนวนเกือบ 2 เท่าของวันก่อนหน้า ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนของสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 817 ราย ขณะที่เอ็ดมันด์คาดการณ์ว่า อัตราการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 2-3 วันจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักรทวีคูณสูงถึง 8,000 รายใน 1 สัปดาห์ และ 64,000 รายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งจะแซงหน้าสายพันธุ์หลักอย่างเดลตาที่ระบาดมากที่สุดในเวลานี้
ขณะเดียวกัน เอ็ดมันด์กล่าวถึงการที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ตัดสินใจนำมาตรการป้องกันและควบคุมโควิดกลับมาใช้อีกครั้งว่าไม่ใช่ปฏิกิริยาที่รุนแรงเกินไป ถึงแม้ว่าในที่สุดแล้วผลการศึกษาที่ออกมาอาจระบุว่าโอไมครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์หลักในปัจจุบันอย่างเดลตา
“ไม่มีใครต้องการที่จะนำมาตรการเหล่านี้กลับมาใช้อีก มันสร้างความเสียหายอย่างมากต่อบางส่วนของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการบริการและค้าปลีกจะได้รับผลกระทบ แต่น่าเสียดายที่เราต้องทำ” เขากล่าว
“ด้วยความเร็วของการแพร่กระจายของไวรัสนี้ เราอาจมีผู้ป่วยจำนวนมากก่อนคริสต์มาส” เขากล่าวเสริม “ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำในตอนนี้ไม่ใช่ปฏิกิริยาที่รุนแรงเกินไป” เมื่อพิจารณาจากอัตราการแพร่เชื้อในชุมชน พร้อมทั้งระบุด้วยว่าการจำกัดการเดินทาง ‘ไม่ได้ช่วยอะไรมากในขณะนี้’
คำเตือนของที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลรายงานจำนวนผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 50,867 ราย มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 813 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 148 รายในวันพฤหัสบดี
เอ็ดมันด์แสดงความไม่เห็นด้วยกับความเห็นที่ว่า สายพันธุ์โอไมครอนอาจไม่ใช่ข่าวร้ายเสียทีเดียว หากพิจารณาจากจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา โดยเขาระบุว่า ข้อมูลการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในแอฟริกาใต้ไม่สามารถใช้ได้กับในสหราชอาณาจักร เนื่องจากประชากรในแอฟริกาใต้อายุน้อยกว่าในสหราชอาณาจักรมาก ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยกว่าที่ผู้ติดเชื้อจะมีอาการรุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
นักวิทยาศาสตร์จะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อศึกษาทำความเข้าใจความรุนแรงของสายพันธุ์โอไมครอนในสหราชอาณาจักร ซึ่งคนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันโรคในระยะแรกๆ ไม่ว่าจะโดยการฉีดวัคซีนหรือจากการติดเชื้อมาก่อน
“เรายังไม่พ้นอันตราย” เอ็ดมันด์กล่าว “ผมคิดว่าในอีก 2 เดือนข้างหน้า เราจะได้เห็นระลอกการระบาดของโอไมครอนที่ค่อนข้างใหญ่ เราจะมีผู้ป่วยจำนวนมาก และจะส่งผลให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก และโชคร้ายที่จะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ผมค่อนข้างแน่ใจ”
ภาพ: Hesther Ng / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
