ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกา ประกาศเริ่มแคมเปญหาเสียงอย่างเป็นทางการ เมื่อวานนี้ (25 เมษายน) ในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ในปี 2024 คาดจะตัดเชือกรอบสุดท้ายกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของพรรครีพับลิกัน เหมือนการเลือกตั้งใหญ่ช่วงปลายปี 2020
ไบเดนได้กล่าวในวิดีโอเปิดตัวแคมเปญว่า “นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะรู้สึกพึงพอใจ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง” โดยหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไบเดนตัดสินใจชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 เป็นเพราะเขาเชื่อว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่จะเอาชนะทรัมป์ได้ในศึกเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐฯ
โดย คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ จะลงสมัครชิงเก้าอี้ตำแหน่งเดิมเคียงข้างไบเดนอีกสมัยในการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีหน้า
ขณะนี้ไบเดนมีอายุ 80 ปี นับเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน และจะหมดวาระสมัยแรกเมื่ออายุ 82 ปี ถ้าหากเขาชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 จะทำให้เขาหมดวาระการดำรงตำแหน่งปี 2029 ในขณะที่เขาจะมีอายุมากถึง 86 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายกังวลใจไม่น้อย
ไบเดนระบุว่า “ถูกแล้วที่ผู้คนจะพูดคุยประเด็นเกี่ยวกับอายุของผม และสิ่งเดียวที่ผมพูดได้คือ จับตามองผมไว้”
โดยตารางคณิตศาสตร์ประกันภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุไว้ว่า อายุขัยเฉลี่ยของชายอายุ 82 ปีคือ 6.77 ปี และมีโอกาสราว 8% ที่จะเสียชีวิตภายใน 12 เดือนหลังจากนั้น
ขณะที่ทรัมป์เองก็มีอายุมากถึง 76 ปีแล้วในปัจจุบัน ถ้าหากเขาชนะการเลือกตั้งและขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ เขาจะหมดวาระลงขณะที่เขาจะมีอายุราว 83 ปี ซึ่งถือว่าสูงไม่น้อยในสายตาพลเมืองอเมริกัน โดยผลสำรวจความคิดเห็นจำนวนหนึ่งชี้ว่า ศึกชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ระหว่างไบเดนและทรัมป์ เป็นคู่ชิงที่พลเมืองอเมริกันน้อยคนอยากจะเห็นและอยากจะให้เกิดขึ้น
ภาพ: Chip Somodevilla / Getty Images
อ้างอิง:
