วานนี้ (20 พฤษภาคม) โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลงนามร่างกฎหมายป้องปรามการเกิดอาชญากรรมจากกระแสการเกลียดชังชาวเอเชีย (Asian Hate) เพื่อปกป้องคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียและแปซิฟิก (AAPI) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายในสังคมอเมริกัน
การลงนามดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่ร่างกฎหมาย Anti-Asian Hate Crime นี้ได้รับมติเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐฯ 94-1 เสียง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และผ่านการเห็นชอบของสภาคองเกรสด้วยมติ 364-62 เสียง โดยมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมบังคับใช้ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ วินิจฉัย และรายงานการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นในสังคม
ด้าน เกรซ เม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เชื้อสายเอเชีย สังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐนิวยอร์ก เขต 6 ระบุว่า “คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียกำลังกรีดร้องขอความช่วยเหลือ และวันนี้สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ยินคำร้องขอจากพวกคุณอย่างชัดเจนแล้ว”
ทางด้าน ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ระบุว่าร่างกฎหมายดังกล่าวส่งข้อความที่ทรงพลังเกี่ยวกับความสามัคคีภายในชาติถึงเหล่าบรรดาผู้ตกเป็นเหยื่อของการเลือกปฏิบัติ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19
“การเลือกปฏิบัติต่อคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ชาติของพวกเรา แต่การแพร่ระบาดของโรคร้ายนำพาอคติและความลำเอียงเก่าๆ กลับมาอีกครั้ง”
จากรายงาน Stop AAPI Hate Reporting Center ชี้ มีรายงานการเลือกปฏิบัติอย่างน้อย 2,808 ครั้งในช่วงมีนาคม-ธันวาคม ปีที่ผ่านมา โดย 70.9% เป็นการดูถูกเหยียดหยามด้วยคำพูด ขณะที่ 8.7% เป็นการทำร้ายร่างกาย บางรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หลายฝ่ายคาดยังมีการเลือกปฏิบัติที่ไม่ได้รับการรายงานอีกมากในสหรัฐฯ
ภาพ: Anna Moneymaker / Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
