วานนี้ (12 มกราคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นสอบสวนกรณีพบเอกสารลับสมัยที่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสมัยของ บารัก โอบามา ถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกพบในที่ทำงานส่วนตัวในศูนย์วิจัยเพนน์ ไบเดน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา และพบเอกสารลับเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 1 ชุด ภายในห้องเก็บของบ้านไบเดนในรัฐเดลาแวร์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
โดยกฎหมายของสหรัฐฯ กำหนดให้บันทึกและรายงานทั้งหมด รวมถึงเอกสารลับจำเป็นต้องส่งไปยังหอจดหมายเหตุแห่งชาติของสหรัฐฯ หลังจากพ้นเวลาปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว
ทางด้านที่ปรึกษาด้านกฎหมายของไบเดนเผยว่า ทางทีมงานของไบเดนได้แจ้งเรื่องการพบเอกสารลับดังกล่าวให้หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ รับทราบ พร้อมทั้งส่งเอกสารเหล่านั้นทั้งหมดไปให้ในทันที พร้อมทั้งยืนยันว่าไบเดนให้ความร่วมมือกับหอจดหมายเหตุแห่งชาติอย่างเต็มที่
ขณะที่ เมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ และรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ประกาศแต่งตั้ง โรเบิร์ต เฮอร์ ที่ปรึกษาพิเศษด้านกฎหมาย ที่จะมารับหน้าที่สอบสวนและตรวจสอบว่าไบเดนได้จัดการกับเอกสารลับของทางการสหรัฐฯ ในสมัยที่เขายังดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ มีผู้ใดที่ทำผิดหรือละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ ในกรณีนี้หรือไม่อย่างไร
โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็กำลังเผชิญกับการถูกสอบสวนในลักษณะที่คล้ายคลึงกันนี้ หลังจากตรวจพบเอกสารลับจำนวนมากที่บ้านพักของเขาในรัฐฟลอริดา เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
เบื้องต้นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ บางคนเริ่มร้องขอให้หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจัดทำรายงานสรุปเรื่องเอกสารลับทั้งหมดที่ถูกพบจากทั้งกรณีของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และกรณีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสในการกลับมาชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สองของทั้งคู่ในปี 2024 ไม่มากก็น้อย
ภาพ: Jom Watson / AFP
อ้างอิง: