การประชุม G7 เปิดฉากขึ้นแล้วที่จังหวัดฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวานนี้ (19 พฤษภาคม) โดยวาระสำคัญของการประชุมที่หลายฝ่ายจับตาก็หนีไม่พ้นประเด็นการแผ่ขยายอำนาจของจีน รวมถึงสงครามที่รัสเซียก่อกับยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงต่อเศรษฐกิจโลก
สำหรับความเคลื่อนไหวสำคัญล่าสุด เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ เปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters และ CNN ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวกับผู้นำจากกลุ่มประเทศ G7 วานนี้ว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนความพยายามของชาติพันธมิตรที่จะร่วมฝึกอบรมให้ทหารของยูเครนสามารถขับเครื่องบินรบ F-16 ได้ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญในช่วงเวลาที่ยูเครนเล็งเสริมแสนยานุภาพทางอากาศ หลังจากที่ถูกรัสเซียถล่มโจมตีอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
การฝึกอบรมการขับเครื่องบิน F-16 ซึ่งสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จะดำเนินการในยุโรป แต่ถึงเช่นนั้นจะต้องใช้เวลานานหลายเดือนด้วยกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุดสำหรับการฝึกอบรมและการจัดส่ง F-16 ให้เรียบร้อยนั้นอาจกินเวลาถึง 18 เดือน
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า หลังจากนี้กลุ่มประเทศพันธมิตรที่เข้าร่วมในโครงการดังกล่าวจะตัดสินใจว่าจะจัดส่งเครื่องบิน F-16 ได้เมื่อใด จำนวนเท่าใด และประเทศใดที่จะเป็นผู้จัดหา ส่วนสหรัฐฯ คาดหวังว่าจะเริ่มการฝึกอบรมได้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
สำหรับการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยว่ามีชาติใดที่จะเข้าร่วมช่วยเหลือด้าน F-16 แก่ยูเครนบ้าง แต่จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรี ริชี ซูนัค ก่อนหน้านี้ ระบุว่า สหราชอาณาจักรจะร่วมมือกับเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และเดนมาร์ก ‘เพื่อเสริมศักยภาพด้านการสู้รบทางอากาศตามที่ยูเครนต้องการ’ ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของเดนมาร์กกล่าวว่า ทางการพร้อมที่จะสนับสนุนในส่วนของการฝึกอบรม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ออกมากล่าวย้ำอยู่บ่อยครั้งว่า ยูเครนต้องการ F-16 เพื่อเข้ามาช่วยพลิกเกมในสมรภูมิรบ หลังจากที่สงครามกินเวลายืดเยื้อมานาน 1 ปีแล้ว โดยมองว่า F-16 มีศักยภาพสูงกว่าเครื่องบินที่ผลิตตั้งแต่ยุคโซเวียตที่กองทัพยูเครนใช้ในปัจจุบัน
แต่ถึงเช่นนั้น ชาติตะวันตกต่างก็สงวนท่าทีที่จะไม่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์มากเกินไป โดยเฉพาะเครื่องบินรบ เนื่องจากกังวลว่าอาวุธทรงพลังดังกล่าวจะส่งผลให้ยูเครนสามารถเข้าไปโจมตีลึกถึงดินแดนของรัสเซียได้ ซึ่งนั่นจะเป็นการยั่วยุอย่างรุนแรง และจะทำให้ชาติสมาชิก NATO ต้องเข้าไปพัวพันในสงครามที่เกิดขึ้นด้วย
ภาพ: Stefan Rousseau – Pool / Getty Images
ภาพ: Stefan Rousseau – Pool / Getty Images
ภาพ: Jacques Witt / Pool / AFP
ภาพ: Stefan Rousseau / Pool / AFP
อ้างอิง: