ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ วิจารณ์ผู้นำจีนและรัสเซียที่ไม่มาร่วมการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศ COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ ในขณะที่ผู้นำทั่วโลกกำลังหาทางรับมือและแก้ปัญหาโลกร้อนกันอย่างพร้อมหน้า
ในสปีชเมื่อคืนวานนี้ (2 พฤศจิกายน) ไบเดนกล่าวว่าสภาพภูมิอากาศเป็น ‘ปัญหาใหญ่’ และจีนได้เดินจากไป เช่นเดียวกับรัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยก่อนหน้านี้ทั้งปูตินและประธานาธิบดีสีจิ้นผิงตัดสินใจที่จะไม่เดินทางไปร่วมประชุม แต่ส่งคณะผู้แทนไปร่วมวงพูดคุยแทน ขณะที่ผู้นำกว่า 120 ประเทศเดินทางไปร่วมประชุมด้วยตนเอง
ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รายใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมาคือสหรัฐฯ ตามมาด้วยสหภาพยุโรป (EU), อินเดีย และรัสเซีย
การประชุมรัฐภาคีตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 (COP26) ผ่านไปแล้ว 3 วัน โดยหลายประเทศได้ประกาศดีลสำคัญหลายฉบับที่แสดงถึงความคืบหน้า เช่น การให้คำมั่นที่จะลดระดับมีเทนภายในปี 2030 และยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในปีเดียวกัน
การแสดงความเห็นของไบเดนมีขึ้นหลังผู้นำสหรัฐฯ ถูกถามถึงบทบาทของจีน รัสเซีย และซาอุดีอาระเบียในการประชุมรอบนี้ ซึ่งเขาตอบว่า “ความจริงที่ว่าจีนกำลังพยายามก้าวเข้ามามีบทบาทใหม่ในโลกในฐานะมหาอำนาจโลก แต่กลับไม่ปรากฏตัว” พร้อมระบุด้วยว่า การที่สีจิ้นผิงไม่มานั้น ถือเป็น ‘ความผิดพลาดครั้งใหญ่’
ก่อนที่ไบเดนออกมาวิจารณ์จีนและรัสเซีย ปูตินได้ร่วมการประชุมทางไกลในหัวข้อการบริหารจัดการป่าไม้บนเวที COP26 ในวันอังคาร (2 พฤศจิกายน) ซึ่งเขาระบุว่า รัสเซียได้ดำเนินมาตรการที่เข้มแข็งและเข้มงวดที่สุดในการอนุรักษ์ป่าไม้
นอกจากนี้ ปูตินยังเคยประกาศในที่ประชุมพลังงานระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมว่า รัสเซียจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Net Zero ไม่เกินปี 2060 ซึ่งหมายถึงการไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปสะสมในชั้นบรรยากาศอีกต่อไป
ส่วนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา สีจิ้นผิงเคยประกาศว่าจีนตั้งเป้าเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2060 โดยมีแผนจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึงเพดานสูงสุดก่อนปี 2030 ก่อนจะลดลงเรื่อยๆ สู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero
ภาพ: Steve Reigate – Pool / Getty Images
อ้างอิง: