‘โจ ไบเดน’ ประกาศผลงานความสำเร็จ หวังดึงคะแนนเสียงคว้าชัยเลือกตั้งมิดเทอม

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศความสำเร็จที่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่ได้หาเสียงไว้ ไม่ว่าจะเป็นการลงนามบังคับใช้กฎหมายปรับลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) กฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้สหรัฐฯ กลับเข้าสู่เวทีสิ่งแวดล้อมโลกอีกครั้ง และกฎหมายว่าด้วยเรื่องของราคายา

รายงานระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศความสำเร็จที่บริเวณสนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาว ต่อหน้าบรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติ สมาชิกคณะรัฐมนตรี นักเคลื่อนไหว และกลุ่มผลประโยชน์ที่สนับสนุนไบเดน และพรรคเดโมแครต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นับเป็นหนึ่งความเคลื่อนไหวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ และเป็นโอกาสที่ประธานาธิบดีไบเดนจะได้โชว์ผลงานชิ้นโบแดงในช่วง 2 ปีของการบริหารประเทศ แม้ว่าผลลัพธ์ของกฎหมายที่นำมาบังคับใช้จะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมเด่นชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายปรับลดเงินเฟ้อ เพราะตัวเลขเงินเฟ้อและราคาที่อยู่อาศัยในขณะนี้ยังคงปรับตัวสูงลิ่ว

ประธานาธิบดีไบเดนย้ำว่า การบังคับใช้กฎหมายปรับลดเงินเฟ้อต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายดังกล่าวออกมาบรรเทาผลกระทบ ด้วยการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านอาหาร ที่อยู่อาศัย ยา และพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ Moody’s Investors และ Fitch Ratings ที่ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวจะช่วยตัดลดเงินเฟ้อได้จริง แต่กว่าจะเป็นผลก็คือในระยะกลางเป็นต้นไป

ขณะที่การลงนามในกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มูลค่า 4.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ถือเป็นมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า จะสามารถดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้มีสิทธิออกเสียงรุ่นใหม่ได้

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังไม่พลาดโอกาสที่จะพุ่งเป้าโจมตีพรรคคู่แข่งอย่างพรรครีพับลิกัน ด้วยการระบุว่า พรรครีพับลิกันไม่ได้ให้การสนันสนุนการออกกฎหมายต่างๆ ของประธานาธิบดีไบเดน สะท้อนได้ว่าพรรครีพับลิกันไม่ได้มีความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวย้ำว่า ตนเองมายืน ณ ที่แห่งนี้ เพื่อยืนยันว่าพรรคเดโมแครตจะยังคงเดินหน้าทำตามสัญญาที่ให้ไว้ และแม้จะสามารถออกฎหมายมาบังคับใช้ได้สำเร็จ แต่ก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อฟื้นฟูให้เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของสหรัฐฯ กลับมายืนหยัดได้อย่างเข้มแข็งอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า คะแนนความนิยมของไบเดนเริ่มขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการสำรวจล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน โดย AP-NORC Center for Public Affairs Research ที่แสดงให้เห็นว่า คะแนนนิยมในตัวผู้นำสหรัฐฯ ปรับขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 36% ในเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ 45% ในเดือนกันยายน โดยส่วนใหญ่ยอมรับผลงาน และทิศทางนโยบายการบริหารประเทศของไบเดน แต่ยังมองว่าปัจจัยด้านการแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังไม่ดีสักเท่าไรนัก

อ้างอิง: