กลุ่มเจมาร์ทเล็งดันบริษัทย่อย 2 แห่งเข้าตลาดหุ้นไทยภายใน 6 เดือนจากนี้ ตอบรับโจทย์เพิ่มมูลค่ากิจการทั้งกลุ่มแตะ 5 แสนล้านบาท พร้อมย้ำภาพรวมกำไรของกลุ่มใน 3 ปีข้างหน้าโตไม่ต่ำกว่า 50% ยังปิดเงียบเรื่องดีลเข้าซื้อ ‘สุกี้ตี๋น้อย’
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเตรียมนำบริษัทย่อย 2 แห่งเข้าตลาดหุ้นในเร็วๆ นี้ ได้แก่ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ผู้ให้บริการสินเชื่อภายใต้แบรนด์ SG Capital ที่เตรียมเข้าซื้อขายในช่วงไตรมาส 4/65
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘กลุ่มเจมาร์ท’ เตรียมดัน 2 บริษัทย่อยเข้าตลาดหุ้นเร็วๆ นี้ หวังปั้นมูลค่ากิจการแตะ 5 แสนล้านบาทตามเป้า
- ‘เจ้าของสุกี้ตี๋น้อย’ ยืนยัน ‘ไม่ขายกิจการ’ มีเพียงการเจรจาเพื่อหาความร่วมมือเท่านั้น ส่วนปีนี้เตรียมเปิดอีก 4 สาขา
- ‘JMART’ เดินกลยุทธ์เชื่อมโยง Ecosystem ภายใน ลงทุนธุรกิจอื่นเพิ่ม รองรับเป้าหมายกำไร 3 ปีโตเฉลี่ย 50%
รวมถึงบริษัท พีอาร์ทีอาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรและให้บริการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Outsourcing) แบบครบวงจร มีแผนเข้าระดมทุนในช่วงปี 2566
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังได้ตั้งเป้าหมายภายในปี 2567 จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชน บิ๊กดาต้า และนวัตกรรมทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในธุรกิจค้าปลีก พัฒนารูปแบบธุรกิจและผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจการเงินให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน ลดหนี้ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยตั้งเป้าหมายจะมีมูลค่ากิจการรวมกลุ่มบริษัทสู่ระดับ 5 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรรายใหม่จำนวน 3-4 ราย เพื่อแตกไลน์การลงทุนในหมวดธุรกิจคอมเมิร์ช ไฟแนนซ์ อาหาร และเทคโนโลยี ซึ่งสัดส่วนการลงทุนเบื้องต้นจะไม่เกิน 10%
“ส่วนประเด็นกระแสข่าวการเข้าซื้อกิจการธุรกิจสุกี้ตี๋น้อยนั้น บริษัทยังไม่ขอให้ความเห็นดังกล่าว แต่จะมีการแถลงข่าวความชัดเจนของการเข้าไปลงทุนในธุรกิจอาหารอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565” อดิศักดิ์กล่าว
สำหรับงบลงทุนในปี 2566 กลุ่มบริษัทคาดจะใช้เงินลงทุนเพื่อซื้อกิจการ และใช้ลงทุนตามแผนบริษัท วงเงินประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งวงเงินดังกล่าวมาจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของ JMART วงเงิน 6 พันล้านบาท และหุ้นกู้ของ JMT ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท รวมถึงการระดมทุนเสนอขายหุ้นไอพีโอจาก ‘เอสจี แคปปิตอล’
อดิศักดิ์กล่าวต่อว่า กลุ่มบริษัทวางเป้าหมายภาพรวมกำไรในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งเป็นการผนึกความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อสร้างธุรกิจต่อยอดในอนาคต หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นพันธมิตรกับกลุ่ม BTS เพื่อผลักดันการดำเนินธุรกิจร่วมกันในด้านค้าปลีกและการเงิน รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ที่จะเข้าไปลงทุน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP