×

The River King ศูนย์กลางการเรียนรู้และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ แหล่งรวมไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ที่ยิ่งใหญ่และกลมกล่อมที่สุดของเมืองไทย [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
29.03.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • บริษัท เจเคเอ็น แลนด์มาร์ค จำกัด โดย แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เปิดตัว The River King ศูนย์กลางการเรียนรู้และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ ศูนย์กลางคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นำป่าหิมพานต์มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ส่งต่อให้สถาปนิกเบอร์หนึ่งของเมืองไทย A49 เป็นผู้สร้างสรรค์
  • The River King สร้างบนพื้นที่ 15 ไร่ ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟที่เปิด 24 ชั่วโมง แกลเลอรี มิวเซียม สตูดิโอ แหล่งช้อปปิ้ง และปั๊ม ปตท.

หากจะกล่าวว่าการปรากฏตัวของ แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ไม่เคยธรรมดาเลยสักครั้ง แอนมีการเปิดตัวหนึ่งในอภิมหาโปรเจกต์ที่จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ นั่นก็คือ The River King ศูนย์กลางการเรียนรู้และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ ภายใต้การดำเนินงานของ JKN Landmark ที่มี แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยใช้งบก่อสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท และได้ A49 บริษัทสถาปนิกชั้นนำของเมืองไทยเป็นผู้ดูแลและควบคุมการก่อสร้างทั้งหมด

 

The River King: The Origin of Human Imagination จุดกำเนิดของจินตนาการมนุษยชาติ จุดกำเนิดของแรงบันดาลใจของคนไทยทั้งประเทศ
ที่มาของชื่อ The River King ถูกอธิบายไว้ในหนังสือ Call Me Anne ข้ามเพศพันล้าน ที่แอนเป็นผู้เขียนว่า “ตั้งแต่วันแรกที่ได้ยืนจ้องมองที่ดินแปลงงามขนาด 15 ไร่ ติดถนนบรมราชชนนี เยื้องเซ็นทรัล ศาลายา ภาพฝันที่เกิดขึ้นมาทันทีก็คืออาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ใช่เป็นเพียงศูนย์กลางแห่งความบันเทิงเท่านั้น แต่ต้องเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาคอนเทนต์ระดับประเทศด้วย และความมหัศจรรย์ต่อมาก็บังเกิดเมื่อชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวอย่างฉับพลัน นั่นก็คือ The River King


แล้ว The River King เกี่ยวข้องกับการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยได้อย่างไร THE STANDARD จะพาไปหาคำตอบผ่านบทสัมภาษณ์นี้ “นิยามของ The River King คือ The Origin of Human Imagination จุดกำเนิดของจินตนาการมนุษยชาติ จุดเริ่มต้นของไอเดียมาจากป่าหิมพานต์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยจินตนาการของมนุษย์ เป็นสถานที่ก่อกำเนิดวรรณกรรม วรรณคดี บรรดาสัตว์ต่างๆ ในป่าหิมพานต์ล้วนมีความมหัศจรรย์ และตัวละครต่างๆ มากมายที่เราเห็นกันในภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือเทพของศาสนาต่างๆ ล้วนมีตำนานมาจากป่าหิมพานต์ทั้งสิ้น จึงนำเอาแนวคิดเรื่องป่าหิมพานต์มาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบและการตกแต่งอาคารให้สมกับการเป็นเจ้าแห่งคอนเทนต์ (Master of Content)

 

 

A49 คือบริษัทแรกและบริษัทเดียวที่ JKN Landmark เลือกให้ดูแลอภิมหาโครงการนี้ “เวลาแอนทำอะไรจะต้องดีที่สุด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องเลือก A49 ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิกเบอร์หนึ่งของเมืองไทยมารับผิดชอบโปรเจกต์นี้ เราเชื่อในความคิดสร้างสรรค์และความเป็นมืออาชีพของ A49 พอโยนโจทย์เรื่องป่าหิมพานต์ให้กับทีม เขาก็ไปทำรีเสิร์ชกัน กลายเป็นข้อสรุปว่า The River King เปรียบเสมือนป่าหิมพานต์ที่ตั้งอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ แวดล้อมด้วยสระใหญ่ 7 สระ หนึ่งในนั้นคือสระอโนดาต และยังแวดล้อมด้วยภูเขาทั้ง 5 หนึ่งในยอดเขาทั้ง 5 ถือเป็นศูนย์กลางของทวยเทพในจักรวาลก็คือยอดเขาไกรลาส ในป่าหิมพานต์ยังเต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิดที่ล้วนแปลกประหลาดต่างจากสัตว์ที่มนุษย์ทั่วไปรู้จัก ซึ่งจิตรกรไทยได้วาดภาพตามจินตนาการจากเอกสารเก่าๆ ออกมาได้อย่างสวยงามแปลกตา”    

 

ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น The River King จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางการเรียนรู้และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจภายใต้สถาปัตยกรรมอันงดงาม แต่ละอาคารแบ่งแยกฟังก์ชันการใช้งานชัดเจน การออกแบบรูปทรงของอาคารมีการคิดรูปแบบให้สอดคล้องกับการใช้งาน เน้นในเรื่องของความทันสมัย ความคงทนถาวร ราวกับภูเขาทั้ง 5 ยอดที่อยู่ล้อมรอบสระอโนดาตที่เป็นหนึ่งใน 7 สระของป่าหิมพานต์ แต่ละอาคารของโครงการเปรียบดังภูเขาแห่งชีวิต ก่อให้เกิดสายน้ำหลากสายมารวมกัน อันเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต รวมไปถึงมนุษย์

 

“แอนใช้เวลากว่า 2 ปีในการตกผลึกความคิด รวบรวมแรงบันดาลใจทุกอย่างจากการทำงานทุกวัน The River King จึงเป็น Content Commerce Company เพราะ The River King ขายคอนเทนต์ คอนเทนต์เกิดจากจินตนาการของมนุษย์ทั้งสิ้น

 

 

ป่าหิมพานต์ รากเหง้าของวัฒนธรรมไทย กิมมิกที่จะเข้าถึงคนไทยและส่งต่อวัฒนธรรมไทยไกลถึงต่างแดน

แอนเชื่อว่าไอเดียป่าหิมพานต์ แนวคิดหลักในการสร้างศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่จะเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้อย่างแน่นอน เพราะนี่คือรากเหง้าของวัฒนธรรมไทยที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน “สิ่งสำคัญคือการสร้างในส่วนของคอมมูนิตี้มอลล์ ถ้าไม่มีกิมมิก มันสร้างไม่ได้ มันต้องต่างกับช้อปปิ้งมอลล์ เมื่อมาถึงแล้วต้องมีสิ่งดึงดูด ดีไซน์คือส่วนหนึ่งที่เราแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และเชื่อได้ว่านี่คือคอนเทนต์คอมเพล็กซ์ของศาลายาที่คนทั่วโลกจะได้เห็น แอนมีแผนโปรโมตไปยังต่างประเทศ เพราะแอนเองก็ทำงานกับสารคดีช่องดังๆ ไม่ว่าจะเป็น Discovery, National Geographic หรือ CNBC เราสามารถกระจายข่าวไปทั่วโลกเกี่ยวกับสถานที่นี้ ดังนั้นเราไม่ได้ตั้งเป้าที่คนไทยเท่านั้น แต่เราตั้งใจจะให้ที่นี่เป็นเดสทิเนชันของประเทศไทย เมื่อต่างชาติมาเมืองไทยต้องอยากมาที่นี่ คนทั่วโลกจะได้เห็นว่าที่นี่เป็น The Pride of Thai Excellence อย่างแท้จริง เป็นความภูมิใจของคนไทย ทำให้คนเกิดความรู้สึกว่าต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต ทุกอย่างที่อยู่ที่นี่จะลิงก์กับความเป็นป่าหิมพานต์ ความเป็นไทย”

 

บนพื้นที่ 15 ไร่ของ The River King ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟที่เปิด 24 ชั่วโมง แกลเลอรี มิวเซียม สตูดิโอ แหล่งช้อปปิ้ง และปั๊ม ปตท. 2 ปั๊ม “ที่นี่เหมาะกับคนทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นคนที่รักในงานศิลปะ รักคอนเทนต์ หรือรักการพักผ่อน รักกิจกรรม รักหนัง ละคร ซีรีส์ เป็นแฟนคลับศิลปินนักแสดง นั่งดูสตูดิโอถ่ายรายการก็ได้ เป็นศูนย์รวมของแฟนคลับที่อยากมาดูรายการ ตลอดจนเป็นพื้นที่จัดอีเวนต์ และที่สำคัญพนักงานออฟฟิศของเราก็ทำงานกันที่นี่ ในเมืองไทยยังไม่มีสถานที่ที่ไลฟ์สไตล์มันเบลนด์ได้กลมกล่อมชัดเจนขนาดนี้


“บรรยากาศก็เป็นจุดเด่นของ The River King เราต้องการสร้างที่นี่ให้ร่มรื่น ต้นไม้เยอะ เหมาะจะมารีเฟรชตัวเอง หรือร้านอาหารที่เลือกมาก็คัดสรรร้านที่เป็นซูเปอร์แบรนด์ รวมถึงร้านที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ ตลอดจนเรื่องของคอนเทนต์ที่อยู่ในมอลล์ ทุกคนสามารถดูมิวเซียมได้ ดูนิทรรศการได้ มีมุมถ่ายรูปมากมาย และเปิด 24 ชั่วโมง เด็กๆ นักศึกษา คนทำงานที่ต้องการพื้นที่ก็มาที่นี่ได้ ต้องได้แรงบันดาลใจกลับไปแน่นอน โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเรื่องของงานศิลปะอยู่แล้ว จึงอยากให้ที่นี่เป็นแหล่งรวมศิลปะขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องของคอลเล็กชันที่เยอะและหาดูได้ยาก คุณจะได้เห็นของล้ำค่าของโลก และศิลปินไทยก็จะมีที่ในการจัดแสดงด้วยเช่นกัน”

 

โลเคชันที่อยู่ใกล้กับศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ถนนด้านหน้าโครงการ 4-5 เลน รวมถึงเป็นทางผ่านไปยังจังหวัดต่างๆ และในอนาคตอาจมีรถไฟฟ้าผ่าน ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า The River King จะเป็นเดสทิเนชันใหม่ของคนไทยอย่างแน่นอน “ในย่านศาลายา The River King จะเป็นโครงการที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่อยู่ละแวกใกล้เคียง รวมถึงคนที่จะไปหัวหิน นครปฐม ราชบุรี หรือคนที่ต้องขับรถผ่านถนนสายนี้ก็เป็นเหมือนเดสทิเนชันใหม่ให้คนแวะมาก่อนที่จะเดินทางต่อ”


ผลตอบแทนที่ได้รับมากกว่าตัวเงิน แต่คือความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ

ถ้ามองในแง่ของการลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ผลกำไรที่ได้รับกลับคืนในรูปของตัวเงินคงไม่เห็นผลเร็วนัก แต่แอนกลับมีทัศนะที่น่าสนใจว่า “ท้ายที่สุดก็ต้องได้รับคืน เพราะถ้าขาดทุน เราไม่ทำ ทำอะไรก็แล้วแต่ ทำด้วยแรงบันดาลใจ ถ้าทำด้วยแรงจูงใจอย่างเดียวจะไม่ได้คืน ถ้าคุณทำของดี ท้ายที่สุดแล้วมันจะกลับคืน บางครั้งมันจะคืนเร็วกว่าที่คุณคิด และอยู่ดีๆ จะสร้างคอมมูนิตี้มอลล์แล้วไม่มีคอนเทนต์รองรับก็ไปไม่รอด วันนี้เรามองว่า The River King จะมีคอนเทนต์ เราจะมีศิลปะทั้งในประเทศและต่างประเทศมาโชว์เคสเดือนละหลายครั้ง ในอนาคตอาจจะมีรถบัสรับส่งแฟนคลับมายังสตูดิโอก็เป็นได้  

 

 

“เชื่อหรือไม่ว่า The River King มันสร้าง The Pride of Thai Excellence ไปทั่วโลกได้ กลายเป็นความเชิดหน้าชูตาของประเทศไทยและสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทด้วย ทุกคนที่มาก็จะได้เห็นคำว่า JKN The River King และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือกระทรวงการท่องเที่ยวสามารถลิงก์กันได้ มากินข้าว พักผ่อน ดูนิทรรศการ จากนั้นไปเที่ยวต่อในจังหวัดใกล้เคียง เรียกว่าเป็นประตูเมืองของนครปฐมก่อนที่จะเข้าเมืองอื่นๆ เลยก็ว่าได้”   


อภิมหาความยิ่งใหญ่ของ JKN ยังคงมีให้ติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆ แอนเผยว่าในอนาคตกำลังจะมีคอนเทนต์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเยาวชนมากมายมหาศาลตราบนิรันดร์กาล “เรากำลังสร้างอัครมหาซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศไทย จะกลายเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ จะเป็นคอนเทนต์ที่คลาสสิก อมตะตลอดกาล แต่ขอเก็บไว้เป็นความลับนะคะ”

 

แน่นอนว่า THE STANDARD เองก็ไม่ยอมพลาดภาคต่ออันยิ่งใหญ่ของอภิมหาโปรเจกต์นี้

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X