วันนี้ (18 กุมภาพันธ์) จิราพร สินธุไพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อประเด็นคดีเหมืองทองอัครา ว่าพรรคเพื่อไทยนำเรื่องดังกล่าวมาเปิดเผยและอภิปรายซักถาม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึง 3 ครั้ง รวมถึงตั้งคำถาม แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ตรงคำถาม อีกทั้งยังพบว่ามีการปกปิดข้อมูลที่เชื่อว่าจะมีความเสียหายกับประเทศไทย ทำให้ต้องอภิปรายเรื่องดังกล่าวเป็นรอบที่ 4 ซึ่งตนขอให้ พล.อ. ประยุทธ์ ที่ระบุว่าพร้อมตอบทุกคำถาม ให้ชี้แจงด้วยตนเอง
ทั้งนี้ตนขอสังเกตว่ากรณีที่บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ของออสเตรเลีย ฐานะบริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียว่ารัฐบาลไทยได้อนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่ 4 แปลง ขณะที่กระบวนอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศนั้น คณะอนุญาโตตุลาการจะเลื่อนอ่านคำชี้แจงออกไป เป็นกรณีที่เกิดข้อสงสัยว่า พล.อ. ประยุทธ์ นำทรัพย์สมบัติชาติไปประเคน และเอาประเทศเป็นเครื่องประกันตัวเองออกจากคดี
จิราพรกล่าวว่า ขอให้ พล.อ. ประยุทธ์ ชี้แจงต่อกรณีดังกล่าว รวมถึงกรณีที่คณะอนุญาโตตุลาการเลื่อนอ่านคำชี้ขาด อย่างไรก็ดีตนเองมองว่ากรณีที่เกิดขึ้นอาจมีกระบวนการประนีประนอมยอมความเพื่อให้ถอนฟ้อง เพราะไม่ต้องการให้ศาลระหว่างประเทศตัดสิน หรือชี้สถานะทางกฎหมายของคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ว่าเป็นกฎหมายที่ไม่มีความชอบธรรมในสากล เพราะเป็นกฎหมายเถื่อนไม่ผ่านสภา เป็นคำสั่งที่ออกจากคณะรัฐประหาร
“หากอนุญาโตตุลาการชี้สถานะว่ามาตรา 44 ไม่มีผลทางกฎหมาย จะกลายเป็นสึนามิต่อรัฐบาล ที่ใช้มาตรา 44 กับบริษัทคิงส์เกตในฐานะบริษัทต่างชาติ และมีองค์ประกอบเข้าข่ายเป็นกลุ่มองค์กรอาชญากรรม ตามนิยามข้อที่ 2 ของอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งลักษณะองค์กร ดังนั้นการใช้มาตรา 44 อาจทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ ถูกตีความเป็นองค์กรอาชญากรรม กลายเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารคนไทยคนแรกขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ ทำให้มีการเจรจาถอนฟ้อง” จิราพรกล่าว
จิราพรกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้หากการตัดสินมาตรา 44 ว่าผิด จะมีอาฟเตอร์ช็อกต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ และรัฐบาลทั้งคณะ คือ หากมาตรา 44 ผิดพลาด และรัฐบาลยังพยายามเอาทรัพย์สินและประเทศประกันตัวเองออกจากคดี หากไทยสามารถเจรจาประนีประนอมยอมความโดยไม่เป็นไปตามขั้นตอนกกฎหมาย จะกลายเป็นความผิดพลาดร้ายแรงซ้ำสอง สร้างภาระประเทศไม่มีที่สิ้นสุด
“หากไม่สามารถแสวงหาความจริงได้ ขอให้ทุกคำถามประทับอยู่ในหัวใจทั้งประเทศ พรรคเพื่อไทยไม่มีวันลืม แสวงหาข้อเท็จจริงทุกช่องทาง นำความจริง ตีแผ่เบื้องหลัง หากการเจรจายอมความมมีพฤติกรรมไม่สุจริต มีข้อแนะนำเดียว คือ เตรียมทีมทนายทั้งในและต่างประเทศไว้ให้ดี” จิราพรกล่าวในที่สุด