ปัญหาของนักเดินทางส่วนใหญ่ ยามเมื่อต้องต่อเครื่องหรือมีเวลามากมายในสนามบินคือ ‘ไม่รู้จะทำอะไรดี’ จะนอนก็ลำบาก จะกินตลอดเวลาก็ไม่ใช่ ยิ่งมีเวลามากกว่า 3 ชั่วโมงยิ่งแล้วใหญ่ จากที่เคยเดินช้อปปิ้งเตร็ดเตร่ไปมาก็กลายเป็นความเบื่อหน่ายแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย หยิบนาฬิกามาดูแล้วดูอีกก็ยังไม่ถึงเวลาเดินทางเสียที พานให้บรรยากาศทริปเหี่ยวเฉาไปเสียหมด ทว่าสำหรับ Singapore Changi Airport การเปิดตัวของ Jewel Changi ทำให้ความเบื่อหน่ายนี้เปลี่ยนไป ใครจะคิดว่า 6 ชั่วโมงในสนามบิน นอกจากช้อปปิ้ง เดินเลือกซื้อของฝาก กินของอร่อยแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำฆ่าเวลาเยอะมาก
THE STANDARD POP เพิ่งไปเยือนสิงคโปร์มา จากเดิมที่คิดว่า 6 ชั่วโมงสำหรับการรอเครื่องบินต้องเป็นเรื่องเบื่อหน่าย แต่กลับกลายเป็นชีวิตในสนามบินก็สนุกดีเหมือนกันนะ หลังจากได้รับประสบการณ์สนุก เราจึงแชร์ประสบการณ์การเที่ยว Jewel Changi เผื่อเก็บเป็นไอเดียไว้เที่ยวครั้งต่อไปว่า Jewel Changi ไม่ได้มีแค่ Rain Vortex แต่ยังมีกิจกรรมอื่นให้ทำอีกเพียบ
Rain Vortex ถ่ายจากทางเดินใกล้ร้าน Shake Shack
ด้วยความสูงเทียบเท่าตึก 10 ชั้น เราเชื่อว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินแค่ไม่กี่ชั้นหรอก ส่วนมากก็คือแวะถ่ายภาพ Rain Vortex ตรงร้าน Shake Shack เดินช้อปปิ้งนิดหน่อย ถ้าหิวข้าวก็หาร้านอาหารตรงชั้น B1 หรือ B2 จากนั้นก็ตรงเข้าสู่เทอร์มินัล 1 เพื่อเช็กอิน
Jewel Changi Airport เป็นอาคารหลังใหม่ล่าสุดของ Singapore Changi Airport ที่เปิดตัวไปช่วงต้นปี 2019 ก่อนการระบาดของโควิดเพียงไม่นาน อาคารทรงโดมแก้วขนาดเทียบเท่าตึก 10 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่ 53,800 ตารางเมตร ออกแบบโดย Safdie Architects บริษัทเดียวกับผู้ออกแบบอาคารรูปเรือ Marina Bay Sands ด้านในประกอบด้วยร้านค้าและร้านอาหารเกือบ 300 ร้าน โรงภาพยนตร์ 11 แห่ง สระว่ายน้ำ สวนป่าขนาดใหญ่ พร้อมด้วย Rain Vortex น้ำตกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าอาคารหลังนี้เชื่อมต่อกับเทอร์มินัลต่างๆ เพื่อความสะดวกของนักเดินทาง
Rain Vortex ถ่ายจากชั้น B1 / B2
Canopy Park
นอกจากส่วนที่กล่าวมาข้างต้น ด้านบนสุดของตัวอาคารเป็นสวนสนุกขนาดย่อมนามว่า ‘Canopy Park’ พื้นที่พักผ่อนสำหรับทุกคนในครอบครัว บนเนื้อที่กว้างกว่า 14,000 ตารางเมตร ด้านในเป็นทางเดินสวนสีเขียวที่มีของเล่นหลบซ่อนอยู่ในบริเวณต่างๆ เราแนะนำให้คุณศึกษารายละเอียดเครื่องเล่นให้ดีก่อนซื้อบัตรผ่านเพื่อเข้าชม (เพื่อความคุ้มค่าของแพ็กเกจตั๋ว) เครื่องเล่นแม้จะดูน่ารักมุ้งมิ้งและไม่จริงจังเท่าสวนสนุกขนาดใหญ่ แต่รับรองว่าทุกอันเป็นสิ่งที่เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี ไล่มาตั้งแต่เครื่องเล่นแรก Hedge Maze เขาวงกตขนาดย่อมที่ชวนให้นักผจญภัยหาทางออก กำแพงไม้เลื้อยลึกลับสูงเท่าตัวคน วางตัวสลับซับซ้อนให้ผู้คนค้นหา Mirror Maze เขาวงกตกระจก ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นของความงวยงง ที่เปลี่ยนจากกำแพงไม้เลื้อยมาเป็นกระจกสะท้อนขนาดใหญ่ มีทั้งแสง สี ลายตาเข้าไปอีก หากใครเป็นสายชอบกระโดด ชอบการปีนป่าย แนะนำให้เล่น Walking Net และ Bouncing Net ประสบการณ์การเดินทางบนตาข่ายเชือกบนความสูงกว่า 8 เมตร เดินไป เด้งไป ล้มไป สนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ฯลฯ
Walking Net และ Bouncing Net
Discovery Slices สไลเดอร์ลอดผ่านงานประติมากรรม
สวยและสนุกในเวลาเดียวกัน
ทางเดิน Canopy Bridge
สำหรับใครที่เป็นสายชิลวิวทิวทัศน์ อยากหาที่นั่งชิลหรือถ่ายรูปสวยๆ แนะนำให้คุณมุ่งไปยัง Canopy Bridge ทางเดินกระจกแก้วความยาวประมาณ 10 เมตร บนความสูงยอดไม้ 23 เมตรเหนือพื้นดิน มองเห็นสายน้ำ Rain Vortex เต็มตาตั้งแต่บนจนถึงล่าง บริเวณรอบๆ ยังเป็นจุดชมวิว นั่งพัก มีร้านอาหารและเครื่องดื่มบรรยากาศดีให้บริการอยู่ด้วย ผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าด้านล่างแน่นอน โซนร้านอาหารนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วค่าเข้า เพียงแค่มายังพื้นที่ชั้น 5 ก็ใช้บริการได้แล้ว
อีกหนึ่งจุดสำหรับการฆ่าเวลาที่ดีคือ Changi Experience Studio ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 4 ของ Jewel Changi มิวเซียมแบบอินเตอร์แอ็กทีฟขนาดไม่กี่ตารางเมตร ที่เราคิดว่าดูแป๊บเดี๋ยวต้องเบื่อแน่ๆ แต่กลับกลายเป็นเราติดเกมด้านในเสียอย่างนั้น
ผู้เยี่ยมชมสตูดิโอทุกคนจะได้รับตั๋วเข้าชมเป็นสมุดสีแดงเล่มหนึ่ง ด้านในเป็นพื้นที่สีขาว ซึ่งวิธีการใช้คือวางสัมผัสตามจุดต่างๆ รวมถึงดูสื่อผสมผสานได้ด้วยการกางสมุดหน้าเปล่าไปยังจุดที่พิพิธภัณฑ์เตรียมไว้ ภาพวิดีโอรวมถึงมัลติมีเดียต่างๆ จะทำงานทันที นิทรรศการด้านในส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวของสนามบินชางงี ตั้งแต่เริ่มสร้างจนถึงปัจจุบัน ด้านในเป็นมินิเกมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินให้เล่น ไม่ว่าจะเป็น เกมประกวดรอยยิ้ม เกมเก็บรถเข็นในสนามบิน เกมจัดแท็กซี่รับ-ส่งผู้โดยสาร เป็นอาทิ ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าเล่นไปงั้นๆ แหละ สุดท้ายกลายเป็นว่าเราติดงอมแงม อยู่แค่บริเวณนี้ร่วมชั่วโมง
ตั๋วหรือสมุดเพื่อใช้ในสตูดิโอ
อยากดูอะไรก็เปิดกางแล้วดูผ่านสมุด
ด้านในเป็นสื่อแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ เพลินมาก
เกมแข่งยิ้ม ระบบจะถ่ายรูปและวัดคะแนน
ใครติดอันดับท็อป 10 ก็จะมีใบหน้าโชว์
เกมปั่นจักรยานแข่งกัน เกมนี้แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายรถยนต์ F1 กับเครื่องบิน
ใครปั่นรวมระยะทางได้เยอะกว่ากัน ฝ่ายนั้นชนะ
อันนี้เป็นห้องเสียงดนตรี แค่ขยับการ์ดในมือก็จะมีเสียงดนตรีออกมา
กิจกรรมทั้งหมดน่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เหลือเวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เราแนะนำให้คุณเลือกภาพยนตร์สักเรื่องจาก Shaw Theatres ที่อยู่บริเวณชั้น B2 หรือปักหลักใช้บริการอาบน้ำพักผ่อนยัง Changi Lounge สนนราคาเพียง 15 ดอลลาร์สิงคโปร์ สำหรับ 2 ชั่วโมง ซึ่งราคาพอๆ กับนั่งในร้านกาแฟหรือคาเฟ่
นี่เป็นเพียงบางวิธีสำหรับการฆ่าเวลาในสนามบินชางงีเท่านั้น อย่าลืมว่าที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นอีก รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารกว่า 300 แบรนด์ และกว่า 100 แบรนด์เป็นร้านใหม่ที่ไม่เคยเปิดในสิงคโปร์มาก่อน สำหรับใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.jewelchangiairport.com
Jewel Changi Airport
Address: 78 Airport Blvd., Singapore
Open: เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง, Canopy Park เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น. ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ ปิด 23.00 น.
Cost: เริ่มต้นที่ 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ มีแพ็กเกจค่าเข้า+เครื่องเล่น ราคา 38-71 ดอลลาร์สิงคโปร์ แนะนำให้ศึกษาเครื่องเล่นให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
Website: www.jewelchangiairport.com
Map: https://goo.gl/maps/mfKBj1dfR6vtWjqSA