แน่นอนว่าฮีโร่ชาวต่างชาติหลายคนถูกยกย่องและกล่าวถึงอย่างมากจากวีรกรรมช่วยเหลือทีมหมูป่าที่ติดถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย โดยชื่อของ เรืออากาศเอกหญิง เจสสิกา แอล. เทต (Captain Jessica L. Tait) แห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งในฮีโร่เหล่านั้น กับบทบาทของเธอในฐานะโฆษกหน่วยค้นหาและช่วยเหลือแห่งกองบัญชาการทหารอากาศสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ในปฏิบัติการถ้ำหลวง
นอกจากใบหน้าที่สะสวยแล้ว ผู้คนยังหลงใหลในความสามารถอันเต็มเปี่ยมของเธอในกองทัพ รวมถึงความเป็นกันเองและบุคลิกที่มั่นใจ ซึ่งสะท้อนความเป็นผู้หญิงยุคใหม่
ปัจจุบันเรืออากาศเอกหญิง เจสสิกาเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการสาธารณะในสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 353 ประจำฐานทัพอากาศคาเนดะ จังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น โดยหน้าที่หลักๆ ของเธอก็คือ เสริมสร้างภาพลักษณ์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ผ่านทางกลยุทธ์การสื่อสาร กิจกรรม และโครงการชุมชนสัมพันธ์ต่างๆ
THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับกัปตันเจสสิกา เพื่อทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น และได้เลือก 10 คำถาม ที่จะช่วยไขคำตอบว่าทำไมผู้คนจึงหลงรักเธอ
รู้สึกอย่างไรที่มีคนไทยเรียกคุณว่า ‘นางฟ้าแห่งถ้ำหลวง’
(หัวเราะ) จริงๆ แล้วฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนสูงส่งขนาดนั้นค่ะ แต่เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ ฉันชอบพบปะผู้คน เข้าหาคน และรู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับพวกเขา
เคยมาเมืองไทยหลายครั้ง ชอบสถานที่ไหนมากที่สุด
เป็นคำถามที่ตอบยากมากค่ะ แต่ฉันอยากจะให้แบ็กกราวด์กับคุณสักนิดว่าสถานที่แรกที่ฉันเคยไปคือโคราช ต่อมาฉันได้ไปกรุงเทพฯ ต่อด้วยพัทยา จากนั้นก็ได้ไปเที่ยวเกาะสมุย และล่าสุดได้ไปปฏิบัติภารกิจที่เชียงราย ทุกที่มีความแตกต่างและน่าอัศจรรย์มาก ความจริงคือผู้คนในทุกๆ ภาคเป็นคนที่มีอัธยาศัยไมตรีดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอในโลกนี้เลยก็ว่าได้
และตลอดเวลาที่ทำงาน ฉันมีโอกาสได้ท่องเที่ยวหลายที่ และคิดจะกลับมาประเทศไทยอยู่เสมอ เพราะที่นี่มีผู้คนที่เป็นมิตร มีวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและทรงคุณค่ามาก เช่น งานศิลปะและสถาปัตยกรรม อาหารก็เป็นเลิศมาก ดังนั้นจึงเป็นการยากสำหรับฉันที่จะตอบว่าชอบอะไรมากที่สุด เหมือนกับถามว่าฉันชอบเด็กคนไหนมากที่สุด ซึ่งฉันไม่สามารถบอกชื่อได้เลย เพราะพวกเขาล้วนงดงามและวิเศษด้วยเหตุผลที่ต่างกัน
ฉันถูกมองในฐานะ เรืออากาศเอก เจสสิกา เทต ฉันไม่ได้ถูกมองเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงของกองทัพ เหมือนผู้คนจะเคารพในตำแหน่งของฉันอย่างแท้จริง เพราะพวกเขาทราบคุณค่าและความสามารถที่ฉันต่อสู้จนได้มา
ถ้าเจอแรงกดดันในเวลาทำงาน คุณรับมือกับมันอย่างไร
หากอยู่ภายใต้แรงกดดันน่ะหรือคะ? ตอบอย่างตรงไปตรงมาเลยก็คือ ฉันพยายามจะทำให้ตัวเองสงบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คล้ายกับที่ฉันตระหนักว่าคุณกำลังควบคุมการสัมภาษณ์อยู่ เหมือนมีใครบางคนกำลังถามคำถามกับคุณ แต่มันขึ้นอยู่กับคุณที่จะตอบสนองในวิธีการที่สงบและมีสติ
แต่ก็อย่ากดดันตัวเองหนัก หากคุณไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะท้ายที่สุดแล้วเราก็เป็นมนุษย์ และเราต่างก็พยายามทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถด้วยองค์ความรู้ที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เรามีในเวลานั้น
เรื่องของความเสมอภาคทางเพศ และการเลือกปฏิบัติในกองทัพ
ตลอดเวลาที่ฉันอยู่ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ทุกวันฉันได้ทำงานร่วมกับผู้ชายและผู้หญิงที่วิเศษมากในสถานการณ์ที่คับขันต่างๆ ดังนั้นฉันจึงสัมผัสได้ถึงความเสมอภาคทางเพศในแง่ความรู้สึกที่ว่า ฉันถูกมองในฐานะ เรืออากาศเอก เจสสิกา เทต ฉันไม่ได้ถูกมองเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงของกองทัพ เหมือนผู้คนจะเคารพในตำแหน่งของฉันอย่างแท้จริง เพราะพวกเขาทราบคุณค่าและความสามารถที่ฉันต่อสู้จนได้มา
คุณมีวิธีป้องกันปัญหาความไม่เสมอภาคอย่างไร
จากทัศนคติและภูมิหลังของฉันในกองทัพ ความเสมอภาคถือเป็นส่วนหนึ่งในนั้น มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณเป็นเพศอะไร มีเชื้อชาติหรือนับถือศาสนาอะไร เพราะเราต่างได้รับการฝึกฝนมาแบบเดียวกัน เราถูกบอกเสมอว่าเราจะทำงานร่วมกันและก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ มันไม่สำคัญด้วยว่าคุณจะถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร หรือมีความคิดที่แตกต่างอย่างไร บางทีคุณอาจมีความคิดต่อต้านผู้หญิง แต่นั่นก็ไม่สำคัญค่ะ เพราะเมื่อคุณเข้ามาทำงานในกองทัพ คุณจะต้องโยนความคิดเหล่านั้นทิ้งไปเพื่อเหตุผลที่ดีกว่า
แล้วความเท่าเทียมในเรื่องเงินเดือนล่ะ
ฉันได้รับเงินเดือนเท่ากับตำแหน่งเรืออากาศเอกคนอื่นๆ ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ค่ะ
ในกองทัพสหรัฐฯ เราได้รับค่าแรงในอัตราเดียวกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะเวลาและลำดับชั้นยศที่พวกเขาเรียกขาน ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือ คุณรับใช้กองทัพมากี่ปี และตำแหน่งยศของคุณคืออะไร ซึ่งสำหรับฉันแล้ว ฉันมียศเป็นเรืออากาศเอก ทำงานให้กองทัพมาแล้วประมาณ 8 ปี เพราะฉะนั้นฉันจึงได้รับเงินเดือนตามนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ และไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเมืองเบื้องหลัง หรืออะไรอื่นเลยค่ะ
เมื่อคุณมองไปที่ชีวิตของตัวคุณเอง และคิดว่าฉันทำสิ่งนี้ไม่ได้ ทำสิ่งนั้นไม่ได้แน่ มันไม่จริงเลยค่ะ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งหมด นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อสารกับผู้หญิงไทย
เคยเจอปัญหาถูกทึกทักแบบเหมารวม (Stereotype) ไหม
โดยทั่วไปแล้วผู้คนมักคิดว่าผู้หญิงต้องเป็นคนว่าง่ายหรือบอบบาง ไม่สามารถทำอะไร หรือบางทีออกจะเจ้าอารมณ์ด้วยซ้ำ แต่ฉันพบความจริงที่ว่าเมื่อคุณอยู่ในกลุ่มกลุ่มหนึ่ง ทุกคนล้วนมีบทบาท ไม่ว่าคุณจะเป็นคนประเภทช่างคิดวิเคราะห์ที่มองไปที่ข้อเท็จจริง เป็นคนว่าง่ายที่สามารถลงมือปฏิบัติ หรือเป็นคนที่มองด้านอารมณ์เป็นใหญ่ และฉันเชื่อว่ากลุ่มที่ประสบความสำเร็จทุกๆ กลุ่มล้วนมีองค์ประกอบเหล่านั้นครบจริงไหมคะ?
เพราะฉะนั้นถ้ามีใครบางคนใช้อารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้งและเย็นชา ย่อมตัดสินใจไม่ถูกต้องแน่ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีคนที่มีภูมิหลังแตกต่างกัน คุณทราบไหมว่าฉันเคยเจอผู้หญิงที่เป็นนักวิเคราะห์ และมีความเด็ดเดี่ยวมากกว่าผู้ชายแท้ๆ เสียอีก และฉันก็ได้พบกับผู้ชายที่เจ้าอารมณ์มากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ
ฉันจึงไม่คิดว่าลักษณะเฉพาะทางเพศจะเป็นตัวกำหนดบุคลิกหรือตัวตนของคนคนนั้นมากนัก แต่สิ่งดีงามที่ฉันอยากจะพูดก็คือ ทุกคนต่างมีบทบาทสำคัญในกลุ่ม ฉันไม่ได้ดูที่ภูมิหลังและบุคลิกลักษณะว่านี่เป็นบุคลิกที่อ่อนแอกว่าหรอกนะคะ เพราะเมื่อคุณมองไปที่พลวัตของกลุ่ม จะเห็นว่าทุกคนต่างมีส่วนร่วมและมีบทบาทที่ขาดไม่ได้
หากคุณเป็น Wonder Woman สิ่งแรกที่จะทำคืออะไร
(หัวเราะ) ฉันได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ซึ่งดีมากค่ะ สิ่งแรกที่ฉันจะทำ (ถ้าได้เป็น Wonder Woman) ฉันคิดว่าบางทีฉันอาจลองมองหากลุ่มคนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ บอกตามตรงนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถูกมองเช่นนั้น เพราะโอกาสแบบนี้แหละที่ฉันรู้สึกว่าได้เป็น Wonder Woman กับการได้รับโอกาสมาพูดคุยกับพวกคุณ และหลังจากนี้ฉันก็ (มีโปรแกรม) ต้องไปพูดคุยกับเด็กนักเรียนต่ออีก
เพราะฉะนั้นถ้าฉันได้เป็น Wonder Woman ฉันก็อยากจะมีโอกาสแบบว่า เฮ้… ฉันมีความสามารถที่ยิ่งใหญ่นะ เเต่เปล่าเลยค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อพวกคุณ ไม่ใช่เพื่อตัวฉันเองเลย
คำพูดที่อยากฝากถึงผู้หญิงชาวไทย หากพวกเขาต้องการความเข้มแข็ง
ฉันอยากบอกกับผู้หญิงชาวไทยว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ก็เหมือนกับที่เราได้เห็นจากถ้ำหลวง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนคิดว่า โอ้ พระเจ้าช่วย! นี่มันเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กเหล่านี้จะมีชีวิตรอด และเมื่อพวกเขา (ทีมนักดำน้ำ) พบว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ และพยายามช่วยออกจากถ้ำ นั่นเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ทำให้เป็นไปได้
เพราะฉะนั้นเมื่อคุณมองไปที่ชีวิตของตัวคุณเอง และคิดว่าฉันทำสิ่งนี้ไม่ได้ ทำสิ่งนั้นไม่ได้แน่ มันไม่จริงเลยค่ะ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งหมด นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อสารกับผู้หญิงไทย
ผู้หญิงทุกคนต่างทำงานในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะได้รับความเสมอภาคทางเพศหรือไม่ เราต่างก็โชคดีที่มีชีวิตอยู่ในช่วงที่ได้รับโอกาสมากกว่าในอดีต และฉันรู้สึกว่าหลายๆ สิ่งกำลังก้าวไปข้างหน้า และขยับเข้าใกล้ความเสมอภาคมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น และพวกเขาจะเข้าใกล้ความเท่าเทียมมากขึ้นค่ะ
มีอะไรอยากจะกล่าวเสริมไหม
แน่นอนค่ะ ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งที่ให้โอกาสฉันได้มาพูดคุยกับพวกคุณ เพราะฉันคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะรู้ว่าสาส์นจากฉันเหล่านี้จะไปถึงผู้หญิงหรือผู้ชายทุกคน ฉันคิดว่ามันสำคัญจริงๆ ที่ผู้คนจะตระหนักว่าทุกอย่างสำเร็จได้หากมีความพยายาม และฉันคิดว่าความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของพี่น้องร่วมชาติก็มีส่วนสำคัญด้วย
เราได้เห็นทุกคนที่มาจากหลากหลายประเทศทำงานร่วมกัน นั่นก็บ่งบอกทุกสิ่งแล้ว ไม่ว่าคุณจะมีพื้นเพมาอย่างไร คุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้ หากคุณทำงานอย่างหนักเพื่อไปถึงเป้าหมาย