×

‘พาวเวลล์’ ย้ำ Fed อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงหนัก

22.03.2022
  • LOADING...
‘พาวเวลล์’ ย้ำ Fed อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงหนัก

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อคืนที่ผ่านมา (21 มีนาคม) ร่วงหนัก หลังประธาน Fed กล่าวในงานพบนักวิเคราะห์ว่า Fed จำเป็นต้อง ‘เคลื่อนไหว’ อย่างรวดเร็วเพื่อจัดการเงินเฟ้อที่สูงสุดรอบกว่า 40 ปี โดยอาจเปลี่ยนจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยทีละ 0.25% แบบดั้งเดิมไปเป็นการเพิ่มขึ้น 0.50% หากจำเป็น

 

บรรยากาศตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเปิดตลาดรับวันใหม่ของสัปดาห์เมื่อวานนี้ (21 มีนาคม) แบบไม่ค่อยสดใสเท่าไรนัก เห็นได้จากดัชนีหลักใน 3 ตลาดปรับตัวแตะระดับต่ำสุดในการซื้อขายระหว่างวัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากคำกล่าวของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในขณะนี้อยู่ในระดับที่สูงเกินไป ดังนั้น Fed จำเป็นต้องเดินหน้าหามาตรการทางการเงินที่เข้มงวดรัดกุมมากขึ้น

 

โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลงลดลง 201.94 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 34,552.99 จุด แต่ในช่วงซื้อขายระหว่างวัน ดัชนีดาวโจนส์ร่วงหนักกว่า 400 จุด ด้านดัชนี S&P 500 ลดลง 1.94 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 4,461.18 จุด และดัชนีแนสแด็กลดลง 55.38 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 13,838.46 จุด

 

ทั้งนี้ พาวเวลล์ ประธาน Fed กล่าวระหว่างเข้าร่วมงานประชุมกับนักวิเคราะห์ของทางสมาคม National Association for Business Economics ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในขณะนี้อยู่ในระดับที่สูงเกินไป ก่อนให้คำมั่นที่จะดำเนินการในทุก ‘ขั้นตอนที่จำเป็น’ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเปลี่ยนจากการปรับขึ้นทีละ 0.25% แบบดั้งเดิมไปเป็นการเพิ่มขึ้น 0.50% หากจำเป็น

 

พาวเวลล์ย้ำว่า Fed จำเป็นต้องออกมา ‘เคลื่อนไหว’ อย่างรวดเร็วเพื่อต่อกรกับภาวะเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปีนี้

 

ไมเคิล วิลสัน นักวิคราะห์จาก Morgan Stanley กล่าวว่า แม้ในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในแดนบวก กระนั้นในภาพรวมของตลาดหุ้นท่ามกลางปัจจัยเงินเฟ้อสูง ทำให้ J.P. Morgan มองว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะตลาดหมี

 

ท่าที จุดยืน และความเห็นของพาวเวลล์เกี่ยวกับก้าวต่อไปของ Fed ในการจัดการรับมือกับเงินเฟ้อ บวกกับสถานการณ์ร้อนระอุระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งตัดสินใจวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ทำให้ราคาทองคำเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ปิดตลาดปรับตัวในแดนบวกเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 1,929.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กระนั้นราคาทองคำในตลาดฟิวเจอร์สช่วงเดือนเมษายนทรงตัวอยู่ที่ 1,929.50 เช่นเดียวกัน

 

เคร็ก เออร์แลม นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวว่า แนวโน้มทิศทางราคาทองคำยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ตราบใดที่สงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงไร้หนทางยุติในเร็ววัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาทองคำเพิ่งจะปรับตัวลดลงมากกว่า 3% ท่ามกลางความหวังหลังจากรัสเซียกับยูเครนเดินหน้าเจรจาเพื่อยุติสงคราม

 

สถานการณ์สงครามที่กลับทวีความตึงเครียดมากขึ้นไม่เพียงแต่ส่งผลต่อราคาทองคำเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวพุ่งแรงมากถึง 7% เมื่อวานนี้ (21 มีนาคม)

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 7.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 7.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดครั้งนี้ มีขึ้นในช่วงที่บรรดารัฐบาลสหภาพยุโรป (EU) เตรียมพิจารณาจะกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อลงโทษกรณีรุกรานยูเครนให้เพิ่มมากขึ้นจากมาตรการคว่ำบาตรที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน พร้อมร่วมประชุมหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์นี้ หวังยกระดับการตอบโต้มอสโกของตะวันตกให้หนักหน่วงขึ้น

 

อ้างอิง 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X