การไลฟ์สดขายสินค้าของ ‘เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ’ หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ กำลังกลายเป็นกระแสมาแรงในโลกออนไลน์ โดยมีทั้งแบรนด์รายเล็กและรายใหญ่เข้าร่วมขายสินค้าผ่านช่องทางไลฟ์สดอย่างคึกคัก ซึ่งเพียงแค่วันที่ 5 ของการไลฟ์ ก็สามารถปิดยอดขายไปได้กว่า 143 ล้านบาท
ปรากฏการณ์ดังกล่าว กลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจในวงการการตลาดและอีคอมเมิร์ซ เพราะไลฟ์ของศิลปินชื่อดังสามารถดึงผู้ชมได้ทะลุหลักแสน และสร้างยอดขายหลักล้านในเวลาอันสั้น สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของ ‘พลังคนดัง’ ที่สามารถเปลี่ยนกระแสดราม่าให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด
พศธร สุขอัมพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจใหม่ (New Business Development Director) จาก MI GROUP ให้ความเห็นว่า ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเทิร์นกระแสให้เป็นกลยุทธ์ โดยศิลปินชื่อดังใช้ช่วงเวลาที่เป็นกระแสในสังคม สร้าง Emotional Connection หรือ ความเชื่อมโยงทางอารมณ์ กับผู้ชม ผ่านคอนเทนต์ที่ผสมผสานทั้งความรู้และความบันเทิงได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เกิดเอนเกจเมนต์สูง และสามารถเปลี่ยนยอดวิวให้กลายเป็นยอดขายจริง
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าหลักของเจนนี่ส่วนใหญ่คือ ฐานแฟนคลับกลุ่มแมส ที่ให้การติดตามมาอย่างเหนียวแน่น โดยแต่ละครั้งที่ไลฟ์ขายสินค้าจะมีผู้ชมมากกว่า 500,000 คน ทำให้ยอดสั่งซื้อหลักหมื่นเกิดขึ้นได้ภายในเวลาอันสั้น อีกทั้งการจัดโปรโมชั่นลดราคา ยังช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ในมุมมองของนักการตลาด การเสนอสินค้าด้วยเรทราคาที่คุ้มค่า ถือเป็นโอกาสให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ พลังของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ยังมีบทบาทสำคัญในการขยายการเข้าถึงผู้บริโภค
โดยปกติแล้วช่วงเทศกาลใหญ่ เช่น แคมเปญ 10.10 มักเป็นช่วงที่แพลตฟอร์มต่างๆ โหมโปรโมชั่นหนัก แต่กรณีของเจนนี่กลับโดดเด่นกว่า เพราะสร้างประสบการณ์เฉพาะตัว ที่แฟนคลับสามารถพูดคุย โต้ตอบ และรู้สึกใกล้ชิดกับศิลปินคนโปรดได้โดยตรง ซึ่งเป็นประสบการณ์ทางอารมณ์ ที่ให้คุณค่ามากกว่าการซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว
ส่วนในเชิงกลยุทธ์ เจนนี่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในกลไกอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม และสามารถใช้ประโยชน์จากระบบไลฟ์สดเพื่อสร้างกระแสและดึงแบรนด์เข้ามามีส่วนร่วม จนกลายเป็น การจับมือระหว่างแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ ที่ช่วยสร้างทั้งยอดขายและแบรนด์อะแวร์เนสไปพร้อมกัน
แม้ยอดขายจริงอาจไม่สูงเท่าตัวเลขที่ถูกพูดถึงในกระแส แต่ที่แน่ๆ ผลลัพธ์เชิงคุณค่า ที่เกิดขึ้นกลับชัดเจนยิ่งกว่า เพราะแบรนด์ขนาดเล็กสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการมียอดผู้ติดตามสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังเข้าใจวิธีทำคอนเทนต์ให้เหมาะกับอัลกอริทึมของ TikTok มากขึ้น ซึ่งนับเป็นความคุ้มค่าที่มากกว่ายอดขาย
ท้ายที่สุด ปรากฏการณ์ ‘เจนนี่ ไลฟ์ขายสินค้า’ ไม่ได้สะท้อนแค่ความนิยมของศิลปินเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึง พลังของ Influencer Marketing ที่สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส พร้อมขับเคลื่อนแนวทางการตลาดยุคใหม่ ที่ผสานระหว่าง ความจริงใจ เอนเกจเมนต์ และแพลตฟอร์ม เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ภาพ: จาก Facebook รัชนก สุวรรณเกตุ