“ฝันอยากจะมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง ถ้าวันนั้นมีจริงๆ ก็ขอให้ทุกคนมาด้วยนะ”
ประโยคที่ เจฟ ซาเตอร์ เคยพูดไว้เมื่อหลายปีก่อน และวันนั้นก็มาถึงแล้ว กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ เจฟ ซาเตอร์ ในประเทศไทย ในชื่อว่า JEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK ที่จัดขึ้นวันที่ 19 มีนาคม 2566 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์
แม้คอนเสิร์ตจะจบไปแล้ว แต่เรายังไม่จบ ใครที่ยังคงมูฟออนเป็นวงกลมอยู่บนดาวเสาร์ วันนี้เราจะพาทุกคนมาสำรวจเส้นทางบนดาวเสาร์ดวงนี้ กับเพลงที่ เจฟ ซาเตอร์ เลือกนำมาร้องบนเวทีคอนเสิร์ต ว่าภายในดาวดวงนี้ เจฟ ซาเตอร์ จะพาทุกคนไปพบเจอกับอารมณ์และความรู้สึกในแง่มุมไหนจากบทเพลงจำนวนกว่า 19 เพลงเหล่านี้บ้าง รวมถึงยังมีแขกรับเชิญอีกสองคนบนดาวดวงนี้อีกด้วย นั่นก็คือ โจอี้-ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ และ MILLI หรือ มินนี่-ดนุภา คณาธีรกุล ที่จะมาร่วมสร้างความสุขให้กับทุกคน
เรามาเริ่มกันที่เพลง Highway เพลงเปิดตัว เจฟ ซาเตอร์ เพลงที่จะพาเรามุ่งหน้าสู่เส้นทางบนดาวดวงนี้ เป็นเพลงที่พูดถึงการมูฟออนจากคนคนหนึ่ง ถึงแม้จะมีความทรงจำที่ดีบนเส้นทางนี้แค่ไหน แต่เมื่อความสัมพันธ์จบลง ชีวิตเรายังต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งเหมาะกับเป็นเพลงเปิดที่จะพาทุกคนเดินหน้าสู่เส้นทางใหม่ได้เป็นอย่างดี
และมาต่อกันที่เพลง ทำไมมันยาก (Complicated) เพลงที่พูดถึงความผูกพันที่เกิดพร้อมกับความสัมพันธ์ และเมื่อความสัมพันธ์จบลง แต่ความผูกพันยังคงอยู่ มันจึงยากที่จะตัดใจ เพราะความรู้สึกของคนเรานั้นช่างซับซ้อน
เพลง แค่เงา (Hide) เพลงที่พูดถึงการเป็นคนที่มักจะถูกมองข้ามเสมอ ถึงแม้จะพยายามเข้าใกล้สักแค่ไหน สุดท้ายก็เป็นได้แค่เงา ที่เขาไม่แม้แต่จะรำคาญ เพราะเขาไม่เคยมองเห็นเลยต่างหาก
เพลง Dum Dum (ดึมดึม) ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของ เจฟ ซาเตอร์ ที่นำมาโชว์บนเวทีคอนเสิร์ตนี้เป็นที่แรก เพลงที่พูดถึงการอยู่กับความเจ็บปวดในความสัมพันธ์ เมื่อนานวันเข้าจึงกลายเป็นความชินชา และสามารถเต้นรำพร้อมกับฮัมเพลงดึมดึมให้กับความเจ็บปวดนี้ได้
เพลง Stranger เพลงที่พูดถึงคนแปลกหน้าที่วันหนึ่งกลายเป็นคนรัก และสุดท้ายก็ต้องกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันอีกครั้ง
เพลง Steal The Show เพลงที่พูดถึงการติดอยู่ในวังวนของคำหลอกลวง รู้อยู่แก่ใจถึงคำโกหก แต่ก็ไม่สามารถออกมาจากความสัมพันธ์นี้ได้ จึงทำได้แค่เยาะเย้ยตัวเองที่ยังรักอยู่ถึงแม้จะถูกหลอกซ้ำๆ ก็ตาม
เพลง วันนี้คือพรุ่งนี้ของเมื่อวาน หลายคนมักชอบผัดวันประกันพรุ่ง สุดท้ายก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการสักที เหมือนกับความรัก ถ้ามัวแต่รอเวลาที่จะพูดคำว่ารักในวันที่พร้อม ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้บอกมันอีกต่อไป เพราะพรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง และเวลาไม่เคยรอใคร
และมาถึงช่วงแขกรับเชิญคนแรกในคอนเสิร์ตนี้ โจอี้-ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ ที่มาร่วมร้องเพลง สุดใจ ของ พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เพลงเพื่อชีวิตสุดอมตะ และเพลง นะหน้าทอง ของ โจอี้-ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ ที่ เจฟ ซาเตอร์ นำมาร้องร่วมกับเจ้าของเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต เพื่อเป่ามนตร์คาถาให้เหล่าแฟนเพลงหลงรักไปกับเสียงร้องของพวกเขา ซึ่งเป็นเพลงที่พูดถึงความกลัวที่เขาจะหมดรัก จึงอยากจะเป่าคาถา ร่ายมนตร์ตามความเชื่อให้เรานั้นรักกันตลอดไป
เพลง Hype Boy หลังจากที่แฟนคลับชาวไทยได้เห็นเจฟแสดงเพลงนี้ในหลายๆ ประเทศผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ มาพอสมควร จึงทำให้เกิดวลีใหม่ขึ้นมาเพื่อเรียกร้องให้เจฟมาแสดงโชว์นี้ในประเทศไทยด้วย อย่างวลีที่ว่า ‘ได้โปรดมา Hype Boy ที่ประเทศของฉัน’ เขาเลยจัดให้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งร้องและเต้นแบบเต็มเพลงครั้งแรกให้สมกับการรอคอย
เพลง ไม่กล้าบอกชัด เพลงที่แฟนคลับเรียกร้องอยากให้เขาร้องมากที่สุดเพลงหนึ่ง เป็นเพลงที่หลายคนมักจะคุ้นหูแต่ไม่ได้รู้จักว่านักร้องคือใคร ไม่กล้าบอกชัด เป็นเพลงพูดถึงความกลัวที่จะบอกความในใจออกไปให้เขาได้รับรู้ เพราะไม่รู้ว่าคำตอบที่ได้จะสมหวังหรือไม่ จึงทำได้แค่นั่งขอพรจากดวงดาว และเมื่อร้องจบเจฟจึงได้พูดว่า “หน้านักร้องเป็นแบบนี้นะ”
เพลง Unholy ของ Sam Smith เพลงที่เจฟได้โชว์ทั้งการเต้นและการร้องที่เซ็กซี่และทรงพลัง และเพลง Comedy เพลงประกอบภาพยนตร์สั้นที่เจฟได้มีโอกาสร้องและร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย
และแขกรับเชิญคนที่สองของคอนเสิร์ตนี้ก็คือ MILLI หรือ มินนี่-ดนุภา คณาธีรกุล ที่มาร่วมร้องเพลง The Weekend ของ BIBI และเพลง โลกคู่ขนาน ของ D GERRARD เพลงที่ทำให้ MILLI ได้โชว์เสียงร้องหวานๆ ของเธอให้แฟนเพลงได้ฟัง โลกคู่ขนาน เป็นเพลงที่พูดถึงการสร้างโลกอีกใบขึ้นมา เพื่อหลีกหนีจากโลกความจริงอันโหดร้ายที่กำลังกัดกินใจเรา
เพลง มือปืน ของ พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เพลงที่โชว์พลังเสียงกระชากใจคนฟัง พร้อมกับการสวมบทบาทมือปืนรับจ้างและสวมเสื้อคลุมที่ยิ่งใหญ่อลังการตามสไตล์ เจฟ ซาเตอร์
เพลง ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง เพลงที่เจฟแต่งขึ้นหลังจากไปงานศพเพื่อนคนหนึ่ง และทำให้คิดได้ว่าอย่าใช้ชีวิตเพื่อลืมหรือจดจำอะไรเลย ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่พูดถึงวิธีการลืมใครสักคน เราไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าวิธีการลืมทำอย่างไร จนกระทั่งลืมไปได้เอง ก็เหมือนกับความรัก ยิ่งเราพยายามลืมแค่ไหน ก็ยิ่งจำได้มากขึ้นเท่านั้น
เพลง Far ของ SILVY feat. Jeff Satur เพลงที่พูดถึงการโหยหาคนที่เป็นดั่งบ้าน เป็นเหมือนเซฟโซนที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย แต่เมื่อวันนี้เขาจากไปแล้ว จึงทำได้เพียงโหยหาวันเวลาเหล่านั้น
และเพลงสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยในคอนเสิร์ตนี้ของเจฟคือ แค่เธอ เพลงประกอบซีรีส์ KinnPorsche The Series เป็นเพลงที่ทำให้หลายๆ คนเริ่มรู้จักเขา แค่เธอ เพลงที่พูดถึงชีวิตที่ไร้ความหมายถ้าเธอไม่เข้ามา และเมื่อได้อยู่ในชีวิตของกันและกันแล้ว ก็ขอให้ยังคงจับมือ และยืนเคียงข้างกันตลอดไป
นอกจากเพลงที่นำมาร้องยังมีอีกหลายโชว์ที่เจฟได้แสดงความสามารถให้เหล่าแฟนคลับได้เห็นอีกมากมายทั้งการเล่นพิณ ทักษะการโซโล่กีตาร์ที่หลายคนถึงกับร้องว้าว รวมถึงภายในคอนเสิร์ตยังมีช่วงพูดคุยหยอกล้อกับแฟนคลับอีกด้วย
จบไปแล้วกับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเจฟ ซาเตอร์ที่พาทุกคนไปรู้จักกับอารมณ์ ความรู้สึกทั้งความรัก การแอบรัก ความตื่นเต้น การถูกมองข้าม ความเจ็บปวด และอีกหลากหลายความรู้สึกผ่านบทเพลงที่ถูกหยิบยกมาร้องในคอนเสิร์ตนี้อย่างจัดเต็ม
และในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกนี้ ทำให้เจฟนึกถึงประโยคที่ตัวเองเคยพูดถึงความฝันที่อยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง และได้พูดกับเหล่าแฟนเพลงและคุณวันเสาร์ (ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) ทุกคนว่า
‘ยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี เรื่องความฝันที่อยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองแล้วบอกทุกคนอย่าลืมมาด้วยนะ แล้ววันนี้ทุกคนมาจริงๆ ว่ะ’