เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา หนึ่งในข่าวใหญ่สุดของแวดวงเพลงเกาหลีก็หนีไม่พ้นเรื่องการไม่ต่อสัญญาของ 7 หนุ่มวง GOT7 กับค่ายเพลง JYP โดยนับตั้งแต่ตอนนั้นมาเหล่าบรรดาแฟนคลับกลุ่มอากาเซของวงก็ต่างลุ้นกันว่าสมาชิกแต่ละคนจะไปเซ็ญสัญญากับค่ายไหน และจะมีโปรเจกต์ใหม่อะไรบ้าง ซึ่งสำหรับลีดเดอร์ของวงอย่าง JAY B ก็ได้เซ็นสัญญากับค่าย H1GHR Music ของ Jay Park และ Cha Cha Malone ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมได้ปล่อยผลงานเพลงแรกออกมาในชื่อ Switch It Up สามารถเปิดตัวในสัปดาห์แรกด้วยอันดับที่ 18 บนชาร์ต Billboard R&B/Hip Hop Digital Song Sales อีกด้วย
ล่าสุดทาง THE STANDARD POP ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ JAY B เกี่ยวกับชีวิตหลังมาทำผลงานเดี่ยว และได้เรียนรู้หลากหลายแง่มุมใหม่ๆ เกี่ยวกับเขา
ชีวิตคุณเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างจากสมาชิกวง GOT7 กลายมาเป็นศิลปินเดี่ยว ณ วันนี้
ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เพราะเมื่อก่อนเราต้องทำงานด้วยกันหมด และสนุกไปกับการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผู้คนและเสียงดัง แต่มาวันนี้ผมก็ได้อยู่กับตัวเองและตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ทำไมคุณถึงตัดสินใจเซ็นสัญญากับค่าย H1GHR Music ของ Jay Park
ผมตัดสินใจเซ็นสัญญากับ H1GHR Music เพราะตัวเองจะได้อิสระในการทำดนตรีและรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำหลากหลายประสบการณ์ที่ไม่เคยทำมาก่อน ผมคิดว่ามันจะสนุกและสร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับเส้นทางอาชีพการเป็นศิลปิน
คุณคิดว่าวันนี้คุณมีอิสระเชิงความคิดสร้างสรรค์และได้ลองเสี่ยงทำอะไรใหม่ๆ ไหมในฐานะศิลปินเดี่ยว
ผมคิดว่าการที่คนเราจะทำอะไรใหม่ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นการเสี่ยง และเราก็ต้องยอมรับกับผลลัพธ์ที่จะตามมา แต่ข้างในผมก็พยายามเชื่อมั่นกับสิ่งที่ตัวเองเลือกทำและหวังว่าแฟนๆ จะชอบสิ่งที่ทำออกมา
ทำไมคุณถึงเลือกปล่อย ‘Switch It Up’ ออกมาเป็นผลงานแรกในฐานะศิลปินเดี่ยว
ผมคิดว่ามันเป็นเพลงที่เพอร์เฟกต์ในการแนะนำตัวเองใหม่อีกครั้งให้แฟนเพลงรู้จักในฐานะศิลปินเดี่ยว ซึ่งผมก็แฮปปี้นะ แต่อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองยังต้องพัฒนาอีกเยอะ
อยากให้คุณอธิบายซาวด์ดนตรีของตัวเอง และเล่าให้ฟังหน่อยว่าได้แรงบันดาลใจมาจากไหนบ้าง
แรงบันดาลใจของผมไม่ได้มาจากศิลปินเพียงคนเดียว เพราะผมเป็นคนที่ได้แรงบันดาลใจจากทุกอย่างที่ได้เห็นและสัมผัสมาทั้งชีวิต ซึ่งมันยากมากที่จะอธิบายซาวด์ดนตรีของตัวเอง
ถ้าสามารถเลือกที่จะร่วมงานกับศิลปินคนไหนก็ได้ทั่วโลก คุณจะเลือกใคร
ผมเลือกคนเดียวไม่ได้หรอก เพราะมีเยอะมากๆ! แต่ถ้าต้องเลือกจริงๆ ขอเป็น จัสติน บีเบอร์ แล้วกัน เพราะผมรักเพลง Peaches มากและฟังทุกวันเลย!
คุณได้ติดต่อสมาชิกคนอื่นใน GOT7 บ้างไหม และพวกคุณให้กำลังใจกันอย่างไรบ้าง
เราพยายามที่จะเชียร์กันและกันตลอดเวลา ซึ่งเราก็ติดต่อและเจอกันบ่อยๆ ตอนรู้สึกเบื่อ แต่มิตรภาพความเป็นเพื่อนก็ยังถือว่าเหมือนเดิม
เราจะได้เห็นโปรเจกต์ใหม่ของ GOT7 เร็วๆ นี้ไหม
ผมสัญญาอะไรไม่ได้ตอนนี้ แต่ก็อยากให้แฟนๆ ทุกคนรอแป๊บหนึ่ง
ตอนนี้พอมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้นในฐานะศิลปินเดี่ยว มีอะไรที่คุณอยากทำที่ไม่เกี่ยวข้องกับดนตรีไหม
ทุกวันนี้ผมอยากท้าทายตัวเองในการไปศึกษาหลากหลายกิจกรรม และไปสอบ Certificate ต่างๆ ด้วย
คุณเคยมาประเทศไทยหลายครั้งกับ GOT7 มีอะไรบ้างที่คุณคิดถึงเกี่ยวกับที่นี่
ผมคิดถึงต้มยำกุ้งที่ได้กินที่โรงแรม ซึ่งผมไม่มีวันลืมรสชาติของมันได้เลย รวมถึงการได้ไปตลาดไนต์มาร์เก็ตต่างๆ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือเสียงกรี๊ดและตะโกนของแฟนๆ ทุกคน
คุณอยากเห็นตัวเองอยู่ตรงไหนในอีก 5 ปีข้างหน้า
ผมหวังว่ายังคงได้สร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้ตัวเองมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ มันดีนะถ้าคนเราได้ทำอะไรหลายๆ อย่างในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมชอบความสม่ำเสมอ (Consistency) มากกว่า ซึ่งผมก็หวังว่าจะยังได้ทำอัลบั้มเพลงและมีความสุขกับหลายๆ อย่างที่เลือกทำในชีวิต
*หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์นี้สัมภาษณ์ผ่านทางอีเมล คำตอบบางส่วนที่แปลมามีการปรับสำนวนเพื่อให้ความหมายชัดเจนขึ้น
ภาพ: H1GHR Music