×

ศาลอาญาให้ประกัน ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ คดีความมั่นคงรัฐเปิดเอกสารลับปมไทย-กัมพูชาปี 52 หลังสั่งจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา

โดย THE STANDARD TEAM
06.08.2024
  • LOADING...
จตุพร พรหมพันธุ์

วันนี้ (6 สิงหาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง จตุพร พรหมพันธุ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองในความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2552 จำเลยนำหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศ ลับมาก ด่วนที่สุด ที่ กต.1303/2355 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 เรื่องแนวทางการดำเนินการกับปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความลับของทางราชการเกี่ยวข้องกับความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ ออกเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ประชาชน (People Channel) 

 

โดยจำเลยแพร่ข้อความในหนังสือผ่านทางโทรทัศน์ ซึ่งหนังสือดังกล่าวเป็นเอกสารที่กระทรวงการต่างประเทศปกปิดไว้เป็นความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ อันเป็นการกระทำเพื่อให้ผู้อื่นล่วงรู้ หรือได้ไปซึ่งข้อความที่ปกปิดไว้เป็นความลับในหนังสือดังกล่าว อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 124

 

จำเลยให้การปฏิเสธ

 

ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันนี้ จำเลยเดินทางมาศาล

 

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลย ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ตามวันเกิดเหตุ ก่อนที่จำเลยจะดำเนินรายการทางสถานีโทรทัศน์ประชาชน รายการความจริงวันนี้ จำเลยได้รับเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศซึ่งประทับตราชั้นความลับ ลับมาก มีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการกับปัญหาความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชา จำเลยซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคฝ่ายค้าน ในขณะนั้น นำเอกสารดังกล่าวไปเผยแพร่ทางรายการความจริงวันนี้ ต่อมากรุงพนมเปญรายงานถึงปฏิกิริยาจากนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชามายังกระทรวงการต่างประเทศ

 

มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลเห็นว่าเอกสารที่จำเลยนำไปเผยแพร่เป็นเอกสารฉบับเดียวกันกับเอกสารตามคำฟ้องของโจทก์ แม้เลขที่ของหนังสือจะระบุเลขที่แตกต่างจากข้อความที่ถอดเทปจากรายการ แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาข้อความที่ถอดเทปมีเนื้อหาสาระเช่นเดียวกัน ทั้งได้ความจากจำเลยตอบทนายจำเลยซักถามว่า เอกสารที่ สส. สงวน พงษ์มณี นำมาให้เป็นคนละฉบับ แต่มีข้อความคล้ายคลึงกัน จึงเชื่อว่าเอกสารโจทก์และเอกสารที่จำเลยได้รับจาก สส. สงวน พงษ์มณี ที่นำไปเผยแพร่ในรายการความจริงวันนี้เป็นเอกสารฉบับเดียวกัน 

 

ส่วนจำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าหนังสือดังกล่าวประทับตราชั้นความลับ ลับมาก เนื่องจากมีเนื้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐและการเมืองระหว่างประเทศ นำเสนอสถานการณ์ แนวทางการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา หากมีการเปิดเผยเอกสารดังกล่าว จะทำให้ประเทศกัมพูชาทราบแนวทางการดำเนินการของไทย และทราบว่าไทยมีข้อได้เปรียบหรือเสียเปรียบในด้านใดด้านหนึ่ง ส่งผลให้ไทยไม่สามารถดำเนินการตามมาตรการที่คาดการณ์ไว้ได้ เอกสารซึ่งประทับตราชั้นความลับ ลับมากนั้น เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่สามารถเปิดเผยเอกสารลับมากได้ ไม่ปรากฏว่าจำเลยขออนุญาตเปิดเผยเอกสารดังกล่าว 

 

ซึ่งการเปิดเผยหนังสือทำให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับความเสียหาย หนังสือของกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นเอกสารของราชการซึ่งประทับตราชั้นความลับ ลับมากนั้น ตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการฯ ชั้นความลับ ลับมาก หมายความถึง ข้อมูลข่าวสารลับซึ่งหากเปิดเผยทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐอย่างร้ายแรง 

 

เมื่อพิจารณาหนังสือมีเนื้อหากล่าวถึงการวิเคราะห์ท่าทีของฝ่ายกัมพูชา พัฒนาการ เป้าหมาย สภาพปัญหาและแนวทางการดำเนินการกับปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา มีข้อความระบุทำนองว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นภัยหลักคุกคามรัฐบาลและพาดพิงไปยังผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน 

 

หากมีการเปิดเผยข้อความดังกล่าวออกไปยังบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด และอาจส่งผลให้สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นไปในทิศทางที่ไม่ดี สอดคล้องกับมีพยานเบิกความตอบโจทก์ซักถามว่า ภายหลังจากมีการเผยแพร่เอกสารแล้ว มีส่วนทำให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ในภาพรวม มีการลดระดับความสัมพันธ์และเรียกทูตของทั้งสองประเทศกลับ 

 

ทั้งไม่ปรากฏว่าเอกสารหมายมีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารโดยไม่มีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขใดอันจะถือว่าข้อมูลข่าวสารนั้นถูกยกเลิกชั้นความลับแล้ว และไม่ใช่ข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่หน่วยงานของรัฐไม่ประสงค์จะเก็บรักษาหรือมีอายุครบ 20 ปี นับแต่วันที่เสร็จสิ้นการจัด ให้มีข้อมูลข่าวสารนั้น ตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 

 

เอกสารดังกล่าวจึงยังไม่ถูกยกเลิกชั้นความลับโดยผลของกฎหมาย ทั้งได้ความจากพยานโจทก์ว่า ภายหลังจากมีการเผยแพร่เอกสารระดับชั้นความลับของหนังสือยังคงเป็นเอกสารลับมากเช่นเดิม ดังนั้น เอกสารดังกล่าวจึงยังคงเป็นเอกสารลับซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา แสดงให้เห็นว่า จำเลยทราบว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารของทางราชการซึ่งประทับตราชั้นความลับ ลับมาก จำเลยยังอธิบายเนื้อหาสาระของเอกสาร

 

ในส่วนของมาตรการที่อาจก่อให้เกิดผลดีและผลเสียต่อประเทศไทย จำเลยย่อมทราบว่าการเผยแพร่ข้อความดังกล่าวสู่สาธารณชนอาจทำให้ประเทศกัมพูชาทราบและส่งผลกระทบต่อมาตรการที่ประเทศไทยกำหนดไว้เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น 

 

ส่วนที่จำเลยนำสืบว่า จำเลยไม่มีเจตนากระทำความผิดตามฟ้อง การที่จำเลยเผยแพร่เอกสารดังกล่าวผ่านทางรายการโทรทัศน์ เนื่องจากข้อความในเอกสารระบุว่า แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติมุ่งจะโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น อันการกล่าวหาจำเลย ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย จำเลยจึงใช้สิทธิในการป้องกันตนเอง โดยการนำเอกสารไปแสดงในรายการโทรทัศน์และแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับเอกสารดังกล่าวนั้น 

 

หากจำเลยเห็นว่าเอกสารดังกล่าวถูกยกร่างขึ้นและมีเนื้อหาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถูกต้องตรงความเป็นจริง จำเลยชอบที่จะดำเนินคดีกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเอกสารดังกล่าว โดยไม่มีสิทธินำเอกสารมาเผยแพร่สู่สาธารณชนทั้งที่เป็นเอกสารลับของทางราชการและมีเนื้อหาซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

 

แม้จำเลยนำสืบว่าจำเลยมีเจตนาป้องกันผลประโยชน์ของประเทศชาติ เนื่องจากหากมีการดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ในเอกสารนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย แต่ขณะนั้นจำเลยอยู่ในฐานะ สส. พรพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลชอบที่จะนำเรื่องดังกล่าวอภิปรายในที่ประชุมสภา 

 

ในส่วนที่จำเลยนำสืบว่าเอกสารนั้นไม่ได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนในการออกเอกสารลับตามระเบียบ แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาตามเอกสารแล้ว บุคคลทั่วไปย่อมทราบว่าเอกสารดังกล่าวมีเนื้อหาที่หากถูกเปิดเผยไปแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พยานหลักฐาน

 

จำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ พฤติการณ์ของจำเลยเองรับฟังได้ตามทางนำสืบของโจทก์ว่า การที่จำเลยนำเอกสารไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ประชาชน รายการความจริงวันนี้ จึงเป็นการกระทำการเพื่อให้ผู้อื่นล่วงรู้หรือได้ไปซึ่งเอกสารอันปกปิดไว้เป็นความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ พยานหลักฐานของโจทก์ที่ทำสืบมาจึงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องจริง 

 

พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 124 วรรคแรก จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา

 

ต่อมา จตุพร จำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 250,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์

 

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวมาโดยตลอด ไม่ปรากฏพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยให้ตีราคาหลักประกัน 250,000 บาท

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X