วันนี้ (21 มิถุนายน) จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา กลุ่มประชาชนคนไทย อ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้แก้ไขปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมัน
เช่นเดียวกับการบริหารประเทศ โดยเมื่อเทียบดัชนีการรับรู้การทุจริตปี 2564 ไทยตกอยู่ลำดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ ซึ่งนับเป็นความตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้ไทยมีหนี้สาธารณะ 10 ล้านล้านบาท เกิดภาวะเงินเฟ้อ ประเทศมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ จัดทำงบขาดดุลต่อเนื่อง เกิดความเหลื่อมล้ำของช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน เน้นการกู้มาแจกประชาชนโดยไม่ก่อรายได้ ประชาชนยังถูกซ้ำเติมด้วยราคาไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม และมีแนวโน้มจะขึ้นสูงอีกเป็นระยะเวลานาน ซึ่งโครงสร้างราคาน้ำมันบิดเบือน ไม่เป็นไปตามต้นทุนราคาจริง การค้ากำไรเกินควร เพราะมีมติคณะรัฐมนตรีและการแก้ไขกฎหมายรองรับ
ทางกลุ่มฯ เสนอแนวทางขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ 9 ข้อ ดังนี้
- ยกเลิกราคาน้ำมันทุกประเภทที่อ้างอิงราคาจากประเทศสิงคโปร์
- ยกเลิกราคาก๊าซหุงต้มที่อ้างอิงราคาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย
- กำหนดเพดานราคาค่าการกลั่น
- กำหนดเพดานราคาค่าการตลาด ควบคุมให้อยู่ในระดับที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานเคยประกาศไว้คือ กลุ่มน้ำมันเบนซินต้องไม่เกิน 1.85 บาทต่อลิตร กลุ่มน้ำมันดีเซลต้องไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
- กำหนดให้ราคา LPG ลอยตัว
- การจัดสรรก๊าซธรรมชาติต้องแก้ไขให้ประชาชนได้รับสิทธิเป็นอันดับแรก ก่อนภาคอุตสาหกรรม
- เก็บภาษีลาภลอยของโรงกลั่น
- จัดหาพลังงานน้ำมันก๊าซจากมิตรประเทศ เช่น รัสเซีย อิหร่าน
- ลดภาษีสรรพสามิตลงอีก
นิติธรระบุว่า ขอท้า พล.อ. ประยุทธ์ มาดีเบตกับตนสองต่อสอง ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ เป็นทหาร ตนเป็นทนายความ มาดูกันว่าสิ่งที่นายกฯ คิดกับสิ่งที่ตนคิด อะไรจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่ากัน
เช่นเดียวกับจตุพรที่กล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ที่ไม่มีการอภิปราย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มทุนพลังงานมีอำนาจเหนือรัฐ มีอำนาจเหนือฝ่ายค้าน มีอำนาจเหนือทางการเมืองทุกอย่าง ทั้งที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนแสนสาหัสจากราคาพลังงาน และการอ้างเรื่องภาวะสงครามเพื่อใช้เป็นสาเหตุในการปล้นประชาชน แต่มีกลุ่มนายทุนบางกลุ่มได้ประโยชน์ทุกครั้ง กรณีที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครนมีความหายนะมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็ได้สร้างความร่ำรวยให้เกิดขึ้นกับคนบางกลุ่มในประเทศไทย โดยเฉพาะด้านพลังงาน
ทางกลุ่มจึงขอนัดหมายกันครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายนนี้ ขอให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพที่เดือดร้อน ทั้งกลุ่มมอเตอร์ไซค์ รถตู้ แท็กซี่ ที่ได้รับผลกระทบ มาช่วยกันระดมความคิดเห็นที่ PEACE TV และวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ขอนัดหมายที่ลานคนเมือง โดยจะขออนุญาต ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เปิดเวทีประชาชน ชำแหละพลังงานและความเดือดร้อนของประชาชน เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป