WHA ยังคงวางแผนที่ขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ท่ามกลางความท้าทายจากกระแสโลกที่เปลี่ยนไป

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการลงทุนขยายธุรกิจที่สำคัญของ WHA Group จากปัจจัยหนุนด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่อาจจะยิ่งทวีความเข้มข้น หลังจากการกลับมาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะช่วยสร้างโอกาสการลงทุนให้เกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย ด้วยพื้นที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์, การเป็นศูนย์รวมซัพพลายเชนที่ครบวงจร, ความพร้อมของระบบสาธารณูปโภค, ความมั่นคงทางด้านพลังงาน รวมถึงพลังงานหมุนเวียน, แรงงานที่มีคุณภาพ, นโยบายการส่งเสริมจากภาครัฐที่เอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์, สินค้าอุปโภคบริโภค, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, อุตสาหกรรม Data Center, สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ และ Cloud Service ซึ่ง WHA Group มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจรและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีความพร้อมในการรองรับการลงทุน อีกทั้งบริษัทยังต่อยอดสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์ต่อลูกค้า คู่ค้า นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย และต้องสอดคล้องตามแนวคิด WHA: WE SHAPE THE FUTURE”

จรีพรฉายภาพการดำเนินธุรกิจภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจหลัก และธุรกิจน้องใหม่ WHA Mobility ดังนี้

1. ธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) เติบโตอย่างโดดเด่นด้วยพื้นที่รวมทั้งสิ้น 3,109,000 ตารางเมตร เป็นโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 167,000 ตารางเมตร กระจายอยู่ทั้งหมด 70 แห่ง และมีลูกค้า 200 ราย ธุรกิจนี้ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการขนส่งและจัดการคลังสินค้า ทั้ง Smart Warehouse, IoT และ AI ทั้งนี้ WHA เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit และโซลูชันโลจิสติกส์สีเขียวเพื่อธุรกิจยุคใหม่อีกด้วย

2. ธุรกิจโมบิลิตี้ (Mobility) โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจร (WHA: Built-to-Suit EV Ecosystem of Logistics) รายแรกในประเทศไทย พร้อม 3 บริการหลัก ได้แก่ บริการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV Rental Service), สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (On Premise & Public EV Charging Solution) และโมบิลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชัน (Mobilix Software Solution) แพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะอันทันสมัยสำหรับจัดการรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ตั้งเป้าให้บริการเช่ารถ EV จำนวนทั้งหมด 20,000 คันในอีก 5 ปีข้างหน้า

3. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม (Industrial Development) มีนิคมอุตสาหกรรม 15 แห่ง ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (SMART Eco Industrial Estate) บนพื้นที่รวม 78,500 ไร่ โดย 14 แห่งตั้งอยู่ในไทย และอีก 1 แห่งในเวียดนาม ฐานลูกค้าใหญ่เป็นลูกค้าจีน 27% และลูกค้าญี่ปุ่นคิดเป็นสัดส่วน 20% ซึ่งสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในไทยได้กว่า 1.6 ล้านล้านบาท พร้อมสร้างงานกว่า 400,000 ตำแหน่ง และกระจายรายได้ให้กับคนในชุมชน

4. ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities & Power) มีปริมาณยอดขายน้ำและบำบัดน้ำเสียรวมที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร, มีปริมาณยอดขายผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม 8 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้ว 965 เมกะวัตต์ ซึ่งมาจากพลังงานสะอาดทั้งหมด 437 เมกะวัตต์

นวัตกรรมการบริหารจัดการสาธารณูปโภคและพลังงานด้วยเทคโนโลยี AI เช่น Solar Anomaly Detection ที่นำ AI มาช่วยตรวจปัญหาที่เกิดกับแผงโซลาร์ ทำให้สามารถดูแลและจัดการปัญหาได้รวดเร็ว พร้อมกับ Solar Forecasting ซึ่งจะช่วยประเมินและคาดการณ์ปริมาณแสงแดดล่วงหน้า จึงสามารถวางแผนปริมาณการผลิตพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึง RO System Performance Forecasting ที่ใช้ Data Analytics เพื่อบริหารจัดการน้ำที่ใช้แล้วมาบำบัดและนำกลับมาใช้ใหม่

5. ธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน ประสบความสำเร็จในการยกระดับองค์กรในทุกมิติ บรรลุเป้าหมายการเป็น Technology Company และผลักดันอย่างต่อเนื่อง เพื่อการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Tech-Driven Organization) จากการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรในด้านนวัตกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง และการทำโครงการ Digital Transformation ต่างๆ ตลอดช่วงเวลา 3-4 ปี ที่ผ่านมา

สำหรับปี 2568 WHA Digital ยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจต่างๆ ใน WHA Group ผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น IoT และ AI โดยในปัจจุบันมีโครงการ AI Transformation ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 12 โครงการ เช่น Drone Inspection Solution และ IoX Platform for Solar

นอกจากนี้ WHA Digital พร้อมหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จากการพัฒนาแพลตฟอร์ม ได้แก่ โมบิลิกส์ แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับจัดการ EV และแบตเตอรี่ โดยตั้งเป้าหมายสำหรับยอดการใช้งานโมบิลิกส์ แพลตฟอร์มที่ประมาณ 900 คันภายในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6,000 คันภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ตลอดจนตั้งเป้าหมายในการพัฒนา 5 แอปพลิเคชันใหม่พร้อมให้บริการภายใน WHA Group ภายในปี 2568

ผ่ากลยุทธ์บนความท้าทาย 3 เมกะเทรนด์ของโลก เทคโนโลยี-ภูมิรัฐศาสตร์-ความยั่งยืน

ในช่วงปี 2560 จรีพรยอมรับว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมาก แต่ในวันที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนโลก WHA ไม่ถูกดิสรัปต์และยังครองบทบาทการเป็นเบอร์ 1 นิคมอุตสาหกรรมไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่าบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก บริษัทผู้ผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก ต่างหลั่งไหลมาปักหมุดลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของ WHA

จุดแข็งสำคัญคือ WHA มีการวางแผนและออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ๆ รองรับโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม New S-Curve และวางกรอบกลยุทธ์บนความท้าทาย 3 ด้านในเมกะเทรนด์ของโลก นั่นคือ เทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ และความยั่งยืน ส่งผลให้ WHA ฝ่าอุปสรรค ผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้ทุกสถานการณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนผ่านรายได้ โดยผลประกอบการทุบสถิติสูงสุด 2 ปีติดต่อกัน และปีนี้แนวโน้มยอดขายที่ดินและทิศทางการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ในไทยยังมีเข้ามาต่อเนื่อง เนื่องจากไทยมีจุดเด่นในหลายด้าน ทั้งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะความพร้อมด้านพลังงานสะอาดและแรงงานที่มีทักษะ

“บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกมักถามถึงความพร้อมในเรื่องพลังงานสะอาด ด้วยต้องใช้พลังงานทั้งน้ำและไฟฟ้าจำนวนมหาศาล เพื่อใช้ในกระบวนการทำงาน ล่าสุด Google ประกาศลงทุนมูลค่ารวม 3.6 หมื่นล้านบาท โดยเลือกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม WHA ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดชลบุรี เพื่อสร้าง Data Center”

ยิ่งตอกย้ำว่า WHA Group เป็นหนึ่งในบริษัทที่ช่วยขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ภาคการผลิต โลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีแห่งยุค AI อย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ พื้นที่นิคม WHA ยังมีผู้ผลิตแบรนด์รถยนต์ระดับโลกเข้ามาสร้างโรงงานทุกสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น Ford, Isuzu, Mazda รวมถึงค่าย EV ยักษ์ใหญ่จากจีน เช่น GWM, MG, BYD และล่าสุดคือ CHANGAN

Key Success ‘ปรับวัฒนธรรมองค์กร ทรานส์ฟอร์เมชันปั้นคนรุ่นใหม่ WHA’

จรีพรถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จนับตั้งแต่วันที่เริ่มทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ Tech Company ที่เป็นมากกว่าเพียงผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม ซึ่งริเริ่มตั้งแต่ปี 2560 อีกว่า WHA เริ่มจากการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร, เปลี่ยนกรอบความคิด, Upskill-Reskill ปั้นคนรุ่นใหม่ โดย WHA ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรควบคู่ไปกับการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีและการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของตัวเองขึ้นมา

“เราปรับวัฒนธรรมองค์กรและ Core Value ปลูกฝังให้พนักงานทั้งองคาพยพมีความเชื่อมั่นที่นำไปสู่การลงมือทำ โดยเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดของการทำทรานส์ฟอร์เมชันคือเรื่องของคน วันนี้บริษัทก้าวเข้าสู่บทบาทการเป็น Tech Company ในแบบของ WHA ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาปรับใช้ในทุกมิติของธุรกิจ” จรีพรย้ำ

ตั้งเป้าปี 2568 ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มหนุนธุรกิจเติบโต 2 เท่า

WHA ใช้งบประมาณลงทุนไปกับการทรานส์ฟอร์มสู่องค์กรเทคโนโลยีถึง 160 ล้านบาท ซึ่งเห็นกำไรตั้งแต่ปีแรกและเกิดการต่อยอด เกิดโปรเจกต์ที่หลากหลายและจับต้องได้ โดยมีโครงการพัฒนา AI 12 โครงการ มีโปรเจกต์ทั้งหมด 38 โปรเจกต์ และมีแอปใหม่เกิดขึ้นมากว่า 50 แอป

“อย่างไรก็ตาม ดิฉันมองว่านี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเป็น Tech Company ในอนาคตเรายังสามารถสร้างเทคโนโลยีของตัวเองขึ้นมา แต่การพัฒนาเทคโนโลยีนั้นไม่มีจุดสิ้นสุด มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ปีนี้เราจึงมีเป้าหมายสู่การเป็น AI Transformation และวางเป้าหมายสู่ Tech-Driven Organization”

อีก 5 ปีจะเห็นความเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบยั่งยืน

จรีพรย้ำว่า “WHA เติบโตมาจากธุรกิจโลจิสติกส์ จากนั้นพัฒนาสู่การเป็นนิคมอุตสาหกรรม พร้อมการให้บริการสาธารณูปโภคและพลังงาน และนำดิจิทัลโซลูชันมาปรับใช้อย่างต่อเนื่อง เราไม่เคยกลัวเทคโนโลยีและไม่ถูกดิสรัปต์ WHA Group พร้อมดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน”

ภายใน 5 ปี หรือช่วงปี 2572-2573 ทุกคนจะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจดิจิทัลโซลูชันที่เราจะผลักดันให้เติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า ดิจิทัลแพลตฟอร์มจะช่วยสร้างให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงธุรกิจใหม่ๆ ผลักดันให้เราเติบโตสู่เป้าหมาย Global Brand ในที่สุด

บทพิสูจน์ความสำเร็จของ WHA Group ในปี 2567 เห็นได้จากรางวัลต่างๆ เช่น Best Sustainability Awards ในกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence จากงาน SET Awards 2024 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ที่ระดับสูงสุด AAA, รางวัลนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Estate) จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, รางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2024 และรางวัล HR Asia: Sustainable Workplace Awards จาก HR Asia

“WHA Group ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามพันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ในการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเจริญ สร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้คนและสังคม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป นั่นคือเป้าหมายสูงสุดของ WHA Group” จรีพรกล่าวทิ้งท้าย