เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (MSDF) เผยเมื่อวานนี้ (9 กุมภาพันธ์) ว่า เรือดำน้ำโซริวอาจเสียหายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น หลังชนกับเรือสินค้าในน่านน้ำนอกแหลมอาชิซูริในจังหวัดโคจิเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะพยายามโผล่พ้นเหนือผิวน้ำ
ภาพข่าวเผยให้เห็นความเสียหายที่ส่วนบนของหอบังคับการเรือดำน้ำ ส่วนปีกหางเสือที่เรียกว่าไฮโดรเพลน ที่ใช้ควบคุมความลึกทางกราบขวาก็มีสภาพแตกหัก
นอกจากนี้ยังเกิดความเสียหายกับเสาวิทยุ และอุปกรณ์สื่อสารของเรือดำน้ำ ส่งผลให้ลูกเรือไม่สามารถรายงานอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ในทันที หลังชนกับเรือสินค้าเมื่อเวลาประมาณ 10.55 น. ของวันจันทร์ (8 กุมภาพันธ์) จนลูกเรือต้องโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือหลังผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง
หลังเกิดเหตุ ฮิโรชิ ยามามูระ เสนาธิการ MSDF ได้กล่าวขอโทษต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ขณะที่ คัตสึโนบุ คาโตะ โฆษกรัฐบาลกล่าวในการแถลงข่าวว่า กระทรวงกลาโหมควรหามาตรการป้องกันไม่ให้กรณีการสื่อสารล่าช้าเกิดขึ้นได้อีก
ส่วนสาเหตุที่นำไปสู่อุบัติเหตุครั้งนี้นั้น โนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ทางกระทรวงยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบร่วมกับหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่น โดยคิชิเผยว่าเรือโซริวไม่สามารถหลบหลีกเรือสินค้าได้ แม้ว่าจะเห็นเรือจากกล้องส่องของเรือดำน้ำขณะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำก็ตาม
นอกจากสำนักงานยามฝั่งและกระทรวงกลาโหมแล้ว คณะกรรมการความปลอดภัยทางการขนส่งของญี่ปุ่นก็เปิดฉากสอบสวนแล้วเช่นกัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีลูกเรือบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน
สำหรับเรือสินค้าคู่กรณีนั้น แหล่งข่าวยามฝั่งเผยกับสื่อญี่ปุ่นว่า อาจเป็นเรือ Ocean Artemis ของฮ่องกง ซึ่งมีลูกเรือขาวจีนราว 20 คน โดยเรือดังกล่าวแล่นไปยังท่าเรือโกเบในจังหวัดเฮียวโงะ จากนั้นทีมนักประดาน้ำได้ดำน้ำลงไปตรวจสอบสภาพลำเรือว่าเสียหายหรือไม่
สำหรับเรือโซริวเป็นเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้า มีระวางขับน้ำ 2,950 ตัน ประกอบด้วยลูกเรือ 65 คน และเข้าประจำการในปี 2009
ภาพ: Yomiuri Shimbun via Reuters
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: