นับเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายของ ‘MUJI’ แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ที่นับวันยิ่งต้องเผชิญความท้าทายในตลาดจีน แม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นแต่สัดส่วนการเติบโตของกำไรกลับลดลง หลังชาวจีนกังวลความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจจนจับจ่ายน้อยลง
บริษัท Ryohin Keikaku เจ้าของแบรนด์ MUJI ระบุว่า ปัจจุบัน MUJI มีสาขาในจีนประมาณ 361 แห่ง ยอดขายรวมตลอดทั้งปีอยู่ที่ 708 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 147 ล้านดอลลาร์ ลดลง 10.2% จากปีก่อนหน้า
ส่วนใหญ่แล้วยอดขายมาจากสาขาเดิมที่อยู่ในพื้นที่ที่มีทราฟฟิกสูง ส่วนร้านที่เปิดใหม่ยอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 3% ซึ่งถือว่าน้อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ามีพฤติกรรมการจับจ่ายลดลง เพราะหลายคนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนกันยายนพุ่งขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 โดยถูกผลักดันจากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณให้ผู้บริโภคต้องประหยัดค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ปัจจุบัน MUJI มีกลุ่มสินค้าหลากหลายชนิด ตั้งแต่เครื่องเขียน สินค้าในครัวเรือน จนไปถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและอาหาร ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา MUJI พยายามเพิ่มกลุ่มสินค้าหมวดอาหารเพิ่มขึ้น โดยยอดขายจากอาหารในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน 10% และตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายเป็น 30% ภายในปี 2030
อ้างอิง: