นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น แสดงความจำนงพร้อมพบคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ และแก้ปัญหาพิพาทจากปมลักพาตัวชาวญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1970-1980
อาเบะให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์รายวัน ซันไก ชิมบุน เมื่อวันพุธ (1 พ.ค.) โดยระบุว่า ต้องการพบคิมจองอึนและเปิดใจพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เพื่อทลายกำแพงความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน
ญี่ปุ่นต้องการจัดการประชุมซัมมิตระหว่างอาเบะและคิมจองอึน โดยหนึ่งในข้อพิพาทระหว่างประเทศที่ญี่ปุ่นต้องการสะสางคือปัญหาการลักพาตัวชาวญี่ปุ่นในอดีต ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม โดยญี่ปุ่นเชื่อว่าเกาหลีเหนือได้ลักพาคนญี่ปุ่นเพื่อไปฝึกภาษาให้กับสายลับเกาหลีเหนือ
เมื่อปี 2002 เกาหลีเหนือยอมรับว่าเคยลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นจำนวน 13 คน แต่ได้ปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว 5 คน ส่วนอีก 8 คนที่เหลือได้เสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้
“มันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับประเทศเราในการแก้ปัญหาแบบเชิงรุก” อาเบะกล่าว
“เราจะไม่สามารถทลายกำแพงความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันได้ หากผมไม่พบปะแบบซึ่งหน้ากับคุณคิมโดยตรง ผมหวังว่าเขาจะเป็นผู้นำที่สามารถตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์และมีความยืดหยุ่นในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศของเขา”
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คิมจองอึนได้ปรับเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ โดยหันไปเจรจากับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เพื่อแก้ปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แต่สำหรับญี่ปุ่นซึ่งมีพรมแดนทางทะเลติดกับเกาหลีเหนือแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังคงมีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คิมจองอึนเดินทางไปพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่เมืองวลาดิวอสต็อก ซึ่งถือเป็นผู้นำต่างชาติคนที่ 3 ที่ไม่ใช่ผู้นำจีนที่คิมจองอึนได้พบ ต่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีมุนแจอินของเกาหลีใต้ โดยอาเบะคาดหวังว่าเขาจะได้พบผู้นำเกาหลีเหนือในอนาคตอันใกล้นี้เช่นกัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
