วันนี้ (10 กรกฎาคม) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวญี่ปุ่นไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาสูง ซึ่งสำนักข่าว Reuters ระบุว่าการเลือกตั้งดังกล่าวอาจเห็นการเพิ่มขึ้นของการสนับสนุนพรรค Liberal Democratic Party (LDP) ภายหลังการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ นักการเมืองที่โดดเด่นและเป็นผู้มีอิทธิพล
การเลือกตั้งยังคงดำเนินอยู่ ณ เวลานี้ (14.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น) กระทรวงกิจการภายในของญี่ปุ่นระบุว่า สัดส่วนผู้ออกไปใช้สิทธิ ณ เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เท่ากับร้อยละ 10.44 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 9.7 เทียบกับเวลาเดียวกัน (11.00 น.) ในวันเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงครั้งล่าสุดเมื่อปี 2019 ขณะที่มีรายงานจากสื่อว่าร้อยละ 15.3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้ลงคะแนนเสียงล่วงหน้าสำหรับผู้ที่ไม่สามารถไป ณ ที่เลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว
จะมีการปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเวลาที่คาดว่าจะมีรายงานผล Exit Poll เบื้องต้นออกมา
“เราเพิ่งเสียอาเบะไป ผมอยากให้พรรค LDP ชนะคะแนนเสียงเยอะๆ เพื่อพวกเขาจะได้บริหารประเทศได้อย่างมั่นคง” ซากาเอะ ฟูจิชิโระ ผู้รับบำนาญวัย 67 ปี ซึ่งลงคะแนนให้พรรครัฐบาลพรรคนี้ในเขตเอโดงาวะ ทางตะวันออกของกรุงโตเกียวระบุ
การเลือกตั้งที่นั่งในสภาสูงที่มีอำนาจน้อยกว่าของรัฐสภามักถูกมองว่าเป็นการลงประชามติเกี่ยวกับรัฐบาลที่อยู่ในตำแหน่ง และผลโพลที่สำรวจความคิดเห็นก่อนการลอบสังหารอาเบะได้ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันแข็งแกร่งสำหรับกลุ่มผู้ปกครองที่นำโดย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งเคยมีอาเบะเปรียบเสมือนเป็นพี่เลี้ยง นักวิเคราะห์ทางการเมืองกล่าวว่าในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังอยู่ระหว่างไว้อาลัย พรรค LDP และหุ้นส่วนที่เป็นพันธมิตรอย่างพรรคโคเมอาจได้รับคะแนนเสียงจากความเห็นอกเห็นใจที่เกิดขึ้น
โดย เจมส์ เบรดี จากบริษัทที่ปรึกษา Teneo ระบุว่าพันธมิตรของพรรครัฐบาล LDP และพรรคโคเม มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะอันแข็งแกร่ง “คลื่นความเห็นอกเห็นใจในขณะนี้สามารถเพิ่มผลต่างของชัยชนะได้”
ผลโพลเมื่อสัปดาห์ก่อนชี้ว่าพรรค LDP น่าจะได้ครองเก้าอี้อย่างน้อย 60 จาก 125 ที่นั่งที่มีการชิงชัย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ครองอยู่ 55 ที่นั่งในปัจจุบัน ทำให้พรรค LDP สามารถร้กษาเสียงข้างมากในสภาที่ร่วมกับพรรคโคเมได้ Reuters ยังระบุว่าการได้ที่นั่ง 69 ที่นั่งในสภาสูง จะทำให้ LDP มีเสียงข้างมาก ซึ่งถือเป็นงานยากในช่วงก่อนการลอบสังหารอาเบะ
การหาเสียงหยุดลงในวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังการสังหารอาเบะ แต่บรรดานักการเมืองก็กลับมาทำกิจกรรมก่อนการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (9 กรกฎาคม) โดย Reuters รายงานว่ามีตำรวจอยู่เพิ่มขึ้นเมื่อคิชิดะปรากฏตัวในการหาเสียงเลือกตั้งที่เมืองแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว และเครื่องตรวจจับโลหะถูกติดตั้งในสถานที่หาเสียงดังกล่าว ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ปกติในญี่ปุ่น
ในขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจจังหวัดนาราระบุวันนี้เช่นกันว่าได้ยึดรถจักรยานยนต์และยานพาหนะของชายผู้ถูกจับกุมในข้อหาลอบสังหารอาเบะ และจากยานพาหนะดังกล่าว ตำรวจได้คืนสภาพถาดที่ห่อด้วยกระดาษฟอยล์อะลูมิเนียมซึ่งผู้ต้องสงสัยกล่าวว่าเขาใช้สำหรับทำให้ดินปืนแห้ง และกระดานไม้ที่มีรูซึ่งเขาบอกว่าเขาใช้สำหรับทดสอบยิงอาวุธที่ผลิตเอง
ด้วยความเป็นไปได้ของคลื่นความเห็นอกเห็นใจภายหลังการสังหาร ประสิทธิภาพอันแข็งแกร่งในการเลือกตั้งอาจช่วยคิชิดะในการทำให้การใช้อำนาจรัฐของเขามั่นคงขึ้น และทำให้อดีตนายธนาคารจากฮิโรชิมารายนี้มีโอกาสบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม นอกจากนี้ยังอาจอนุญาตให้เขาแก้ไขรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น ซึ่งแม้แต่อาเบะก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้
“ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะพยายามเสริมสร้างความมั่นคงภายในประเทศ” เบรดีระบุ “จากการบ่อนทำลายความรู้สึกทั่วไปเกี่ยวกับความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของสาธารณชน เหตุการณ์นี้อาจเพิ่มแรงผลักดันให้กับจุดมุ่งหมายหลักของอาเบะ เช่น การสร้างเสริมด้านกลาโหม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ”
ผลโพลสำรวจความคิดเห็นยังแสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่สนับสนุนความแข็งแกร่งทางทหารที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลอบสังหารอาเบะไม่ได้มีอิทธิพลต่อผู้เลือกตั้งทุกคน อย่าง โยชิโอะ ยามาโมโตะ ข้าราชการวัย 40 ปี ที่ลงคะแนนเสียงในเขตนากาโนะ ใจกลางกรุงโตเกียว ให้กับพรรค Democratic Party for the People ระบุว่า ฝ่ายบริหารของคิชิดะถือว่าได้รับการชื่นชม “แต่ถ้า LDP อยู่ในอำนาจนานเกินไป ก็จะมีการสมรู้ร่วมคิดกันมากเกินไป”
นักวิเคราะห์ระบุว่า การถึงแก่อสัญกรรมของอาเบะทำให้อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดสุญญากาศด้านอำนาจ และความวุ่นวายภายในพรรค LDP ซึ่งอาเบะมีอิทธิพลอยู่
ภาพ: Toshifumi Kitamura / AFP
อ้างอิง: