บรรดาบริษัทในญี่ปุ่นต่างกำลังหาวิธีที่ช่วยเหลือเหล่าพนักงานที่มีบุตรหลานต้องดูแล หลังนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ขอให้โรงเรียนประถมและมัธยมทุกแห่งทั่วประเทศปิดชั่วคราวตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อลดความเสี่ยงที่เด็กนักเรียนจะติดโรคโควิด-19
โดยเวลาการปิดโรงเรียนนั้นจะมีไปจนถึงช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งปกติจะสิ้นสุดในช่วงต้นเดือนเมษายน หรืออีก 1 เดือนกว่าๆ โดยบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่เลือกใช้วิธีให้ทำงานจากที่บ้าน หรือปรับระยะเวลาการทำงานให้ยืดหยุ่น
เช่น Life Corp เชนซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในแดนซามูไร ได้ลดชั่วโมงการทำงานของร้านค้ากว่า 280 แห่ง โดยตั้งแต่วันจันทร์ ร้านค้าทุกสาขาจะเปิดในเวลา 10.00 น. จากเดิมที่เปิด 09.00 น. ขณะเดียวกันมีร้านอีกประมาณ 86 สาขาจะเลื่อนเวลาปิดเร็วขึ้น 1-2 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องปิดในเวลา 21.30 น.
เดิมซูเปอร์มาร์เก็ตจะจ้างกลุ่มแม่บ้านมาทำงานชั่วคราวในระหว่างที่ลูกไปโรงเรียน แต่การที่โรงเรียนต้องหยุดเพราะโรคโควิด-19 ทำให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์ขาดแคลนแรงงานจะรุนแรงขึ้นไปอีก จากเดิมที่ขาดแคลนอยู่แล้ว
ขณะที่ร้านอาหารและค้าปลีกยังต้องพึ่งพาแรงงานชั่วคราวจำนวนมาก Sukiya เชนร้านข้าวหน้าเนื้อ ได้ลดชั่วโมงการทำงานตลอดจนปรับปรุงเมนูที่ขายใหม่ ขณะที่ห้างสรรพสินค้า Odakyu จะปิดสาขาชินจูกุและมาชิดะเวลา 19.30 น. จนถึงวันที่ 22 มีนาคม จากปกติที่บางชั้นจะเปิดให้บริการถึงเวลา 22.30 น.
ด้านห้างสรรพสินค้า Tokyu จะลดชั่วโมงการทำงาน 4 สาขาจนถึงวันที่ 18 มีนาคม ส่วนห้างสรรพสินค้า Hankyu Hanshin จะลดเวลาการปฏิบัติงานลง 1-3 ชั่วโมงจนถึงวันที่ 17 มีนาคม ขณะที่ Sapporo Holdings ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเครื่องดื่ม ให้พนักงาน 1,500 คนรวมถึงพนักงานในฝ่ายจัดส่งและโลจิสติกส์ทำงานจากที่บ้านได้จนถึงวันที่ 13 มีนาคม
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำงานหนักอยู่แล้ว รัฐบาลจึงพยายามส่งเสริมให้เกิดการปฏิรูปการทำงานไม่ให้หนักจนเกินไป จึงเกิดคำถามว่าหากสถานการณ์วิกฤตของโรคโควิด-19 ผ่านไป การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะยังอยู่หรือไม่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: