ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น อนุมัติแพ็กเกจอัดฉีดเศรษฐกิจมูลค่า 108 ล้านล้านเยน (ประมาณ 9.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตการระบาดของโควิด-19 โดยงบประมาณฉุกเฉินนี้เทียบเท่า 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าแพ็กเกจอัดฉีดของสหรัฐฯ ที่มีขนาดเทียบเท่า 11% ของ GDP และงบประมาณอัดฉีดมูลค่า 5% ของ GDP เยอรมนี
แพ็กเกจเยียวยาเศรษฐกิจรอบนี้จะประกอบด้วยเงินสดที่จ่ายให้ครัวเรือนและธุรกิจขนาดเล็กรวมกว่า 6 ล้านล้านเยน (5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และงบประมาณจำนวน 26 ล้านล้านเยน (2.39 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับการยืดเวลาชำระภาษีและอื่นๆ
อาเบะกล่าวเมื่อวานนี้ว่า การใช้จ่ายโดยตรงจากแพ็กเกจนี้จะมีจำนวน 39 ล้านล้านเยน (3.58 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของงบประมาณที่ญี่ปุ่นใช้จ่ายเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินที่เริ่มต้นมาจากการล้มละลายของ Lehman Brothers ในปี 2008
ทั้งนี้นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากวิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และทำให้ภาครัฐต้องออกมาตรการจำกัดการเดินทางในประเทศ และการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่แล้ว
นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า GDP ของญี่ปุ่นจะหดตัวลงอีก 2 ไตรมาสติดต่อกัน หลังจากที่ติดลบในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในญี่ปุ่น ณ เวลา 13.13 น. วันที่ 8 เมษายน มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,257 ราย โดยจำนวนนี้รักษาหาย 622 ราย และเสียชีวิต 93 ราย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: