วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ญี่ปุ่นเริ่มต้นแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับมอบจากบริษัท Pfizer ไปทั่วประเทศ โดยจะเริ่มฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขจำนวน 40,000 คนตามโรงพยาบาลต่างๆ ก่อนที่จะกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อน
การฉีดวัคซีนในญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้นที่ศูนย์การแพทย์โตเกียว โดยหลังจากนี้ญี่ปุ่นมีแผนจัดส่งวัคซีนไปยังโรงพยาบาล 100 แห่งทั่วประเทศภายในสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้รัฐบาลถูกวิจารณ์ว่าจัดหาวัคซีนล่าช้าเมื่อเทียบกับอย่างน้อย 70 ประเทศ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการระบาดของไวรัสหลายระลอก
การฉีดวัคซีนเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เหลือเวลาไม่ถึง 6 เดือนก่อนจะถึงกำหนดการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากเห็นควรให้ยกเลิกการแข่งขัน โดยเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมีมากขึ้นเรื่อยๆ จากความล่าช้าในการตอบสนองต่อโรคระบาด ขณะที่คะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
The Japan Times รายงานว่ากลุ่มบุคลากรสาธารณสุขที่รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกนั้นจะมีจำนวน 20,000 คนที่เข้าร่วมการศึกษาเพื่อติดตามผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการฉีดวัคซีน โดยพวกเขาจะถูกถามอาการเพื่อลงบันทึกทุกวันเป็นเวลา 7 สัปดาห์ หลังจากได้รับวัคซีนโดสแรกจากทั้งหมด 2 โดส ซึ่งระยะเวลาในการฉีดวัคซีน 2 เข็มนั้นจะห่างกัน 3 สัปดาห์
สำหรับวัคซีน Pfizer ที่พัฒนาร่วมกับ BioNTech บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพจากเยอรมนีนั้น จะต้องเก็บรักษาในตู้แช่พิเศษที่อุณหภูมิ -75 องศาเซลเซียส และเมื่อนำออกมาแล้วจะต้องแช่เย็นซ้ำและใช้ภายใน 5 วัน
ทั้งนี้ คาดว่าบุคลากรสาธารณสุขในด่านหน้าอีก 3.7 ล้านคนจะเริ่มได้รับวัคซีนในเดือนมีนาคม ต่อด้วยประชาชนอายุ 65 ปีขึ้นไปจำนวน 36 ล้านคนในเดือนเมษายน จากนั้นก็จะเป็นคิวของประชาชนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และผู้ที่ทำงานในสถานดูแลคนชรา และท้ายสุดจะเป็นกลุ่มประชาชนทั่วไป
ภาพ: Behrouz Mehri / AFP / Pool / Anadolu Agency via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
