เศรษฐกิจญี่ปุ่นรอดพ้นจากการเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) หลังจากรายงานตัวเลขการเติบโตของ GDP ไตรมาส 4 ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 0.4% จากไตรมาสก่อน พลิกกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง หลังจากไตรมาส 3 ปี 2023 GDP หดตัว 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า
สกุลชัย เก่งอนันตานนท์ทั้งนี้ นิยามของ Technical Recession คือการที่ GDP หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ปัจจัยหลักที่หนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ผ่านมาคือ การลงทุนของภาคเอกชนที่ขยายตัว 8.4% อย่างไรก็ตาม การบริโภคของประชาชนซึ่งมีสัดส่วนกว่าครึ่งของ GDP ญี่ปุ่นยังหดตัว 1% โดยภาพรวมส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นทั้งปี 2023 ขยายตัวได้ 1.9% ถือเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2022 ที่ GDP เติบโต 1%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวเลข GDP ญี่ปุ่นล่าสุดจะออกมาดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ และไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคอย่างที่หลายฝ่ายกังวล แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นกลับตอบรับในเชิงลบ
ดัชนี Nikkei 225 เปิดตลาดในช่วงเช้าลดลง 1% ทันที ก่อนที่จะลดลงต่อเนื่องไปอยู่ที่ราว 38,220 จุด ลดลงเกือบ 1.6% จากวันก่อนหน้า และเป็นการหดตัวภายในวันมากที่สุดนับแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้หุ้นญี่ปุ่นเพิ่งจะพุ่งขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ในรอบกว่า 34 ปี ด้วยการพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 40,355 จุดเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และถือเป็นตลาดหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดในโลกนับแต่เข้าสู่ปี 2024 จากการปรับตัวขึ้นเกือบ 20%
โทนี ไซซามอร์ นักวิเคราะห์ของ IG Australia กล่าวว่า “แรงเทขาย (หุ้นญี่ปุ่น) ที่เกิดขึ้นวันนี้ สะท้อนโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะกลับนโยบายดอกเบี้ยออกจากการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบภายในอีก 1 สัปดาห์ถัดจากนี้ ส่งผลให้แนวทางการประเมินมูลค่าเพื่อตัดสินใจลงทุนที่เคยทำมาตลอดหลายปีต้องประเมินใหม่อีกครั้ง”
ขณะเดียวกันค่าเงินเยนของญี่ปุ่นกลับมาแข็งค่าอีกครั้งสู่ระดับ 146.98 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากแข็งค่ามา 4 วันติดต่อกัน
ด้าน เอเมอร์ แอนวาร์ซาเดช นักกลยุทธ์ของ Asymmetric Advisors กล่าวว่า ที่ผ่านมานักลงทุนในตลาดจำนวนมากมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นญี่ปุ่นจากการอ่อนค่าของเงินเยน มากกว่าที่จะเชื่อมั่นต่อการยกระดับธรรมาภิบาลของบริษัทญี่ปุ่น
ประเด็นที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเตรียมจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 จะทำให้อัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นที่ติดลบ 0.1% ในปัจจุบันจะกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง และหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ยุคสมัยของอัตราดอกเบี้ยติดลบของโลกจบลงในที่สุด
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 30 ปี หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะทำให้ต้นทุนการนำเข้าเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ช่วยให้ภาพรวมของกำไรของบริษัทญี่ปุ่นพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า การปรับเปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ยครั้งสำคัญของธนาคารกลางญี่ปุ่น ออกจากการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบจะส่งผลต่อค่าเงินเยนอย่างไร ต้นทุนการเงินของบริษัทจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ และในท้ายที่สุดจะส่งผลต่อกำไรของบริษัทญี่ปุ่นมากน้อยแค่ไหน
ภาพ: Javier Ghersi / Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-03-11/nikkei-tumbles-most-in-a-year-as-yen-rise-weighs-on-exporters?sref=CVqPBMVg
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-03-10/japan-s-economy-avoids-recession-one-week-before-boj-meeting?sref=CVqPBMVg
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-03-11/world-s-negative-interest-rate-experiment-nears-its-end-in-japan?srnd=homepage-asia&sref=CVqPBMVg
- https://asia.nikkei.com/Economy/Japan-avoids-recession-as-strong-capex-boosts-Q4-GDP#