สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเพิ่งออกมาเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2020 หดตัวลง 7.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (มกราคม-มีนาคม) แต่ถ้าเทียบเป็นรายปีจะพบว่าหดตัวมากถึง 27.8% เนื่องจากการบริโภคและการส่งออกของภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ไตรมาสนี้เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 ซึ่งถือเป็นการหดตัวรายไตรมาสที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ย้อนกลับไปปี 1955
เดิมเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสอยู่แล้ว ทั้งสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อปีที่แล้ว ทว่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจทวีความรุนแรงขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดหลังจากที่รัฐบาลกลางประกาศภาวะฉุกเฉินในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ซึ่งทำให้ร้านค้าปลีกหลายแห่งปิดตัวลงชั่วคราว ในขณะที่การส่งออกได้รับผลกระทบจากการชัตดาวน์ในสหรัฐฯ และยุโรป
การบริโภคภาคเอกชนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลดลง 8.2% โดยเฉพาะการท่องเที่ยว การรับประทานอาหารนอกบ้าน และการจับจ่ายลดลงอย่างมาก ท่ามกลางคำขอของรัฐบาลที่ให้ชาวญี่ปุ่นกักตัวอยู่ในบ้านเพื่อป้องกันการระบาด โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ลดลงสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.8%
การส่งออกสินค้าและบริการรวมถึงการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 18.5% ซึ่งเป็นไปตามความต้องการที่ลดลงทั่วโลกของรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเนื่องจากข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่เข้มงวดขึ้นเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส
นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะฟื้นตัวขึ้นกว่า 10% ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนจากไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากสิ้นสุดภาวะฉุกเฉินของการระบาด ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์เชื่อว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปีเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนการระบาดใหญ่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: