(11 ก.ค.) สำนักข่าว CNN รายงานว่าฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 21 รายแล้ว และเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดของญี่ปุ่น นับจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่จังหวัดฟุกุชิมะเมื่อปี 2011
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวว่าตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมมีจำนวน 176 ราย ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 75,000 คนลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งเตือนให้ประชาชนระวังพายุฝนและแผ่นดินถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นอีก
นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้ยกเลิกการเดินทางไปประเทศเบลเยียม ฝรั่งเศส ซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น โดยนายอาเบะได้เดินทางถึงจังหวัดโอคายาม่าในเช้าวันพุธเพื่อสำรวจความเสียหายในพื้นที่ผ่านเฮลิคอปเตอร์
จังหวัดโอคายาม่าถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมมากที่สุด นอกจากนี้นายอาเบะยังได้เดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ศูนย์อพยพและจะเดินทางต่อไปที่เมืองคุราชิกิเพื่อสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมทั้งเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดโอคายาม่า
เหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้ประชาชนนับแสนคนต้องละทิ้งที่อยู่อาศัย และยังมีอีกบางส่วนที่ไม่สามารถออกมาจากที่พักอาศัยได้ทัน เนื่องจากน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้ติดค้างอยู่บริเวณหลังคาบ้าน
สถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่น รายงานว่าเมื่อเวลาตี 5 จนถึง 7 โมงเช้าของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่เมืองอุวาจิมะมีปริมาณน้ำฝน 364 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ามากกว่าปริมาณน้ำฝนของเดือนกรกฎาคมทั้งเดือนถึง 1.5 เท่า และที่เมืองสึคุโมะ จังหวัดโคจิ มีปริมาณน้ำฝน 263 มิลลิเมตรภายในเวลา 2 ชั่วโมง
เมื่อปี 2011 ที่ญี่ปุ่นได้เกิดเหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่จังหวัดฟุกุชิมะ เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 และคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเกิดเหตุการณ์นิวเคลียร์หลอมละลาย มีประชาชนมากกว่า 20,000 คนเสียชีวิตและสูญหายจากเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้
อ้างอิง: